‘ภูมิธรรม’ ย้ำ ต้องทำงานแก้ปัญหาปากท้องประชาชนให้ได้ ชี้ เป็นสิทธิ์ฝ่ายค้านตั้งคำถาม

วันนี้ (11 ก.ย. 66) ที่อาคารรัฐสภา นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มีความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และตอบการอภิปรายฝ่ายค้าน พร้อมย้ำว่า นโยบายเป็นเรื่องกรอบใหญ่ ส่วนรายละเอียดจะดูตามกระทรวงอีกครั้ง เพราะเวลาในการแถลงต้องกระชับ และจะครอบคลุมในทุกประเด็น

“เรามีความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะแสดงออกให้เห็นว่าเราพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาทุกปัญหาให้คลี่คลาย แม้ว่าสถานการณ์จะยากลำบาก ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโรคระบาด ที่ส่งผลต่อปัญหาของประเทศมาอย่างยาวนาน จึงเป็นประเด็นที่จะต้องยอมรับ และเข้าใจเพื่อผ่านไปให้ได้” นายภูมิธรรม กล่าว

ส่วนที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายหลังแถลงนโยบายนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนเองไม่ได้กังวล เพียงแต่ตอนนี้ยังทำงานไม่ได้ ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาให้เสร็จสิ้นก่อน ที่ผ่านมานายกฯ ก็เดินสายไปรับฟังปัญหา แม้จะยังไม่มีอำนาจในการสั่งการ แสดงให้เห็นว่านโยบายหลายเรื่องอย่างเรื่องที่เร่งด่วน ก็ต้องรีบทำเพื่อแก้ปัญหาให้มีความยั่งยืน และกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องปากท้องได้

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตนเองยอมรับว่าการตั้งรัฐบาลเป็นสถานการณ์ยากลำบาก แต่ไม่ได้หนักใจอะไร เรามากับทีมงานที่พร้อมในการทำงาน และได้พูดคุยกับปลัดกระทรวง อธิบดีทุกคน ตนเองเชื่อในความเป็นมืออาชีพของบุคลากรในกระทรวงพาณิชย์ว่ามีความรู้ความสามารถ ซึ่งจากที่ได้พูดคุยกับทุกคน ก็ขอไม่สนใจเรื่องพิธีรีตองมาก เอาความมุ่งหมายเป็นสำคัญ ให้สามารถวัดได้ใน 100 วันแรก ต้องรีบทำสิ่งต่าง ๆ ที่ทำได้ ให้ถึงที่สุดไม่มีคำว่าทำไม่ได้ มีแต่สิ่งที่ต้องคิด และหาทางออกอพยามทำให้การทำงานของทุกคนตอบสนองพี่น้องประชาชนได้ ไม่ให้เป็นข้อจำกัดในการทำงาน

ส่วนที่พรรคก้าวไกลออกมาระบุว่าเป็นรัฐบาลไม่ตรงปก หรือไม่ตรงที่หาเสียงไว้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้าน ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็มองอะไรที่ไม่ตรงกัน หรือไม่เหมือนกันเสมอ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตั้งคำถาม และตรวจสอบ แม้จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ตาม หน้าที่ของรัฐบาลก็ต้องตอบทำความเข้าใจให้ประชาชนได้ทราบ ได้เห็น ถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาล และทิศทางที่จะเดินไป

“รัฐบาลผสมมีความยากอยู่แล้วแต่การตั้งรัฐบาลครั้งนี้ เราคำนึงถึงหลักเหตุผล เราสลายขั้ว เราพูดคุยกันแล้วว่าเราจะทำงานโดยยึดนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย อะไรที่เห็นเหมือนกันก็เดินตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย ส่วนความเห็นต่างที่สามารถรวมกันได้ก็จะรวมกัน ทิศทางของเราคือรัฐบาบผสม 11 พรรค ที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงกลายเป็นรัฐบาลของประชาชน ถ้าทุกฝ่ายเข้าใจ และคิดถึงสิ่งนี้ การจัดการ และการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจะประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นกว่ารัฐบาลผสมส่วนอื่นที่เคยเป็นมา” นายภูมิธรรม กล่าวทิ้งท้าย