‘ภูมิธรรม’ เปิดงาน “OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี”
‘ภูมิธรรม’ เป็นประธานเปิดงาน “OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ภายใต้แนวคิด จากสองมือคนไทย สู่หัวใจคนทั้งโลก (From Hand To Heart) พร้อมเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยว เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP จากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
วันนี้ (11 ส.ค. 68) เวลา 15:00 น. ที่อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” โดยมี รศ.อภิญญา เวชยชัย รองประธานกรรมการคู่สมรสคณะรัฐมนตรี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ร่วมพิธี
ภายในงาน นายภูมิธรรม และคณะได้ร่วมรับชมการแสดงชุด “ศิลปาชีพมรดกภูมิปัญญาเหนือกาลเวลานิรันดร์กาล” บอกเล่าเรื่องราวพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระผู้ทรงพระราชทานแนวพระราชดำริในการสืบสานภูมิปัญญาผ้าไทยและหัตถกรรมไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืนถึงปัจจุบัน
นายภูมิธรรม กล่าวเปิดงานว่า งาน “OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด จากสองมือคนไทย สู่หัวใจคนทั้งโลก (From Hand To Heart) เพื่อเทิดพระเกียรติ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยเสมอมา โดยทรงอุทิศทุ่มเทพระวรกายประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่ออนุรักษ์และสืบสานงานหัตถศิลป์ของไทยให้ดำรงเป็นความภาคภูมิใจของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย โดยมี “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เป็นมูลนิธิที่ทรงก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ราษฎรไทยในภูมิภาคต่างๆ ผลิตงานศิลปหัตถกรรมเป็นอาชีพเสริม ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ชนบท และท้องถิ่นทุรกันดาร อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์และพัฒนาฝีมือและรังสรรค์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านให้ดียิ่งขึ้นจนเป็นที่รู้จักในวงกว้างและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เพื่อสนองพระราชปณิธานในการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนแก่ประชาชนชาวไทย รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดำเนินการโครงการต่างๆ เพื่อขจัดความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นในทุกมิติ ด้วยการสร้างโอกาสให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเสมอภาคกัน ซึ่ง OTOP เป็นโครงการที่เห็นผลความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในด้านการสร้างงานเพื่อขจัดความยากจน และสร้างรายได้ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน สะท้อนผ่านตลอดระยะเวลาของโครงการที่ผ่านมา เราได้เห็นพี่น้องในชนบทตั้งใจสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นตนเองให้มีคุณภาพมาตรฐาน และมีคุณลักษณะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการขยายผลโครงการ OTOP ด้วยการสนับสนุนและยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ผ่านการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต และผู้ประกอบการ
ตลอดจนเพิ่มช่องทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น สินค้า OTOP บางประเภทที่ผู้ซื้อให้ความสำคัญกับงานฝีมือแบบโบราณ เช่น ผ้าทอมือ เครื่องเงินหรือเครื่องทองโบราณ ซึ่ง OTOP ก็มีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์งานศิลปะอันเกิดจากภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าให้คงอยู่สืบต่อไป และขณะเดียวกัน ยังมีผลิตภัณฑ์อีกหลายประเทศที่จำเป็นต้องมีการพัฒนารูปลักษณ์ สีสันหรือการออกแบบให้ทันสมัย เพื่อให้สินค้านั้นมีความร่วมสมัย ซึ่งโครงการ OTOP ก็มีส่วนสำคัญในการพัฒนาต่อยอดสินค้าเหล่านั้นให้สามารถตอบสนองความต้องการ และรสนิยมของคนรุ่นใหม่
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า OTOP เป็นโครงการที่นอกจากจะช่วยอนุรักษ์และสืบสานงานของคนในชุมชนและท้องถิ่นแล้ว ยังช่วยพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญงาน OTOP ถือเป็นตลาดที่รวบรวมผลิตภัณฑ์จากทั่วทุกภาคของประเทศไทย และชาวต่างชาติได้เลือกซื้อ อันจะเป็นการสร้างรายได้ สร้างรอยยิ้ม และสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ผลิตงาน อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้แสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ของประเทศไทย เป็นการแสดงความตั้งใจในการสนับสนุนพลังสร้างสรรค์ (Soft Power) ของประเทศไทย เพื่อให้ความรู้ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย สามารถสร้างมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับคนไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทย กรมการพัฒนาชุมชน คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้ระดมทุกสรรพกำำลังเพื่อขับเคลื่อนโครงการ OTOP รวมถึงการจัดงานในครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อเหล่าผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP ตลอดมา
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงาน “OTOP ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี” ระหว่างวันที่ 9-17 ส.ค. 68 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อร่วมกันสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่นไทย และเป็นกำลังใจให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการ OTOP และการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของดีของไทยอันเป็นการกระจายเม็ดเงินเข้าไปสู่ชุมชนและท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยอย่างยั่งยืน” นายภูมิธรรม กล่าวในช่วงท้าย
ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ซึ่งได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชน ขับเคลื่อนผ่านโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการกระจายรายได้สู่ชุมชน พร้อมผลักดัน Soft Power เพื่ออนุรักษ์ พื้นฟู และต่อยอดศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เกิดมูลค่าเพิ่มและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล จึงเป็นที่มาของการจัดงาน “OTOP ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจด้วยพระบารมี” ระหว่างวันที่ 9-17 ส.ค. 68 รวม 9 วัน ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี












