คปนพ. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ตรึงราคาดีเซล 30 บาท หวั่นขนส่งราคาแพง
คปนพ. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้ตรึงราคาดีเซล 30 บาท หวั่นขนส่งราคาแพง กระทบทุกภาคการผลิต เตรียมยกระดับการเคลื่อนไหว หากไม่มีการพิจารณาราคาน้ำมันภายใน 10 วัน
วันนี้ (11 มิ.ย. 67) นายกฤษณ์ สุริยผล เลขาเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำมันแพง (คปนพ.) พร้อมสมาชิกและมวลชนกว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องขอให้รัฐบาลตรีงราคาน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ซึ่งมี นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับหนังสือก่อนนำไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
นายกฤษณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ประกาศปรับราคาน้ำมันดีเซลสูงขึ้นต่อเนื่อง จากที่ผ่านมาตรึงน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ปรับสูงขึ้นเกือบ 33 บาทต่อลิตร และคาดว่าจะปรับเพิ่มเป็น 35 บาทต่อลิตร ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้น้ำมันจำนวนมาก น้ำมันคือต้นทุนของทุกภาคการผลิต ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร ชาวสวน ชาวไร่ ชาวนา และภาคการขนส่ง ได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาน้ำมัน และส่งผลกระทบรุนแรงมากทำให้สินค้า และค่าขนส่งราคาแพง
นายกฤษณ์ กล่าวอีกว่า เครือข่ายภาคประชาชนฯ เห็นว่าการขึ้นราคาน้ำมันเป็นการช้ำเติมในภาวะวิกฤติเศรฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากโควิด-19 และภาวะสงครามจากต่างประเทศ นายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการบริหารพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่กำหนด หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันให้มีความสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และก่อนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้หาเสียงเรื่องการปรับโครงสร้างพลังงานให้น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้าราคาถูกลงทันทีที่เป็นนายกรัฐมนตรี คปนพ. จึงสรุปเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา 5 ข้อดังนี้
1.ตรึงน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 1 ปี
2.ยกเลิกการเก็บภาษีสรรพสามิตที่ซ้ำช้อนเกี่ยวข้องกับน้ำมัน
3.ยกเลิกการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน
4.ให้ประกาศการขึ้นลงน้ำมันเป็นรายเดือน
5.ยกเลิกเก็บค่าการตลาดและน้ำมันสูตรผสม
“ผมขอให้รัฐบาลได้บทวนพิจารณาให้ตรึงน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ตามข้อเสนอแนะแนวทางดังกล่าวข้างต้น 5 ข้อ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้น้ำมัน ผมจึงมีข้อเสนอกับทางรัฐบาลในเรื่องของราคาน้ำมันที่เราเรียกร้องให้อยู่ในราคา 30 บาทต่อลิตร อย่างน้อยก็สามารถที่จะช่วยเหลือให้รถทัวร์ที่รับนักท่องเที่ยวให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และทำให้ผู้ประกอบการ สามารถที่จะผ่อนรถต่อไป” นายกฤษณ์ กล่าว
นายกฤษณ์ กล่าวต่อว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้เป็นฉบับที่ 4 และจะเป็นฉบับสุดท้าย มองว่ารัฐบาลน่าจะมีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวภายใน 10 วัน หากเกินระยะเวลา สมาพันธ์ทั่วประเทศจะมียกระดับการเคลื่อนไหว ซึ่งยังไม่บอกว่าจะเป็นการยกระดับในลักษณะใด รอให้ถึงเวลาก่อน
