รอง ผบช.น. ยันจัดกำลังรับมือม็อบ “เดินไล่ตู่”
เตือนผู้ชุมนุมคำนึงโควิด-ความปลอดภัย ปชช. ยังไม่พบรายงานพกอาวุธ-ใช้ความรุนแรงในพื้นที่
วันนี้ (11 มิ.ย. 65) เวลา 14:20 น. พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนการเคลื่อนขบวนการชุมนุม “เดินไล่ตู่” บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร
พล.ต.ต. จิรสันต์ กล่าวว่า เรามีการเตรียมความพร้อมไว้ระดับหนึ่ง เพราะผู้ชุมนุมกำหนดใช้เส้นทางสัญจรหลักของพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตาม บช.น. ได้แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางตั้งแต่เวลา 14:00 น. เป็นต้นไป ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถือว่า ณ ขณะนี้ เว้นไว้ 2 ช่องทางจราจร ยังไม่เกิดปัญหาการจราจรแต่อย่างใด ส่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก็ถือเป็นจุดหลักในการเดินทางของพี่น้องประชาชน ตรงนี้มีผิวการจราจรหลายช่องทาง ซึ่งคาดว่ากระทบการเดินทางของประชาชน
พล.ต.ต. จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมทุกครั้ง ถ้าเป็นไปด้วยความสงบก็จะไม่กระทบกับพี่น้องประชาชน เราคาดหวังให้การชุมนุมโดยสงบเกิดขึ้น เราได้เตรียมการป้องกันเนื่องจากไม่อยากให้เกิดความรุนแรง อาชญากรรม หรือการกระทำผิดเกิดขึ้น ทาง พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผบช.น. ได้สั่งการเตรียมกำลังและผู้รับผิดชอบแต่ละพื้นที่ไว้แล้ว ดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยและสัญจรไปมา เนื่องจากเขาไม่มีส่วนของการชุมนุมแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผู้ชุมนุมประชาสัมพันธ์ว่าไม่มีแกนนำ จะเป็นอุปสรรคต่อการจัดการของเจ้าหน้าที่หรือไม่ พล.ต.ต. จิรสันต์ ตอบว่า ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการระมัดระวัง เนื่องจากการรวมกลุ่ม หากมีแกนนำก็จะง่ายต่อการปฏิบัติงานแบบประสานงาน ซึ่งจะสามารถควบคุมกำกับดูแลได้ แต่พอไม่มีแกนนำก็อาจทำให้ผู้ชุมนุมไม่มีเอกภาพในการเคลื่อนที่หรือจัดกิจกรรม
ส่วนกรณีการพกพาอาวุธ พล.ต.ต. จิรสันต์ ชี้แจงว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เจ้าหน้าที่กำหนดมาตรการตั้งจุดความมั่นคงสกัดกั้นอาวุธ เพราะทุกครั้งเมื่อมีการชุมนุม สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดคือมีการนำอาวุธเข้ามา หรือเกิดเหตุความไม่สงบ เพราะหากสงบก็ไม่น่าส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่
นอกจากนี้ พล.ต.ต. จิรสันต์ ยังฝากถึงผู้ชุมนุมว่า แม้อาจใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่การใช้สิทธิที่กระทบกับสิทธิของผู้อื่นก็ขอให้คำนึงถึงประชาชนที่พักอาศัยหรือเดินทางจนอาจได้รับความเดือดร้อนด้วย ให้คำนึงถึงตรงนี้ และปัจจุบันขณะนี้สถานการณ์โควิดเรียกว่ายังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ เรื่องการติดเชื้อยังมีอยู่ การรวมกลุ่มก็เป็นส่วนหนึ่งอาจทำให้การแพร่ระบาดโควิดได้
