ประชาธิปัตย์ ตั้ง คกก.สอบนักการเมืองหญิงมีสัมพันธ์ลับกับพระ

ผลออกภายใน 3 วัน จ่อขับพ้นสมาชิกพรรคเหตุทำผิดศีลธรรม เผยยังติดต่อเจ้าตัวไม่ได้ เตรียมเรียกสามีนักธุรกิจมาซักข้อเท็จจริง

วันนี้ (11 เม.ย.67) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงกรณีนักการเมืองหญิง อักษรย่อ ป.มีความสัมพันธ์ลับกับพระว่า นักการเมืองหญิง เป็นอดีตผู้สมัคร สส.ของพรรค ซึ่งพรรคได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น เนื่องจากสื่อมวลชนโทรมาสอบถามและมีข้อมูลแจ้งมายังตนเอง ยืนยันว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจติดตามเก็บข้อมูลในทันที

ตนเองในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารพรรค จึงรายงานให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทราบทันที เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ สมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน เป็นแบบอย่างที่ดีเรื่องสถาบันครอบครัว โดยตามข้อบังคับพรรค ข้อที่ 26 กำหนดไว้ว่าสมาชิกพรรคต้องปฏิบัติตนอยู่ภายใต้กรอบจริยธรรม คุณธรรมอย่างเคร่งครัด

เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่อง จึงมีคำสั่งในทันทีให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบความเป็นมาสมาชิกพรรคของบุคคลดังกล่าว พบว่าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จนถึงปัจจุบัน โดยสมัครสมาชิกเมื่อวันที่ 26 มี.ค.66 โดยอดีตผู้สมัคร สส. หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ร่วมทำกิจกรรมการเมือง และไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในพรรค และวันนี้จะมีการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน ตามที่หัวหน้าพรรคได้มอบหมาย ก่อนจะรายงานต่อคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาต่อไป

นายราเมศ ยอมรับว่าได้ติดต่อคุณ ป.ไปถึง 3 ครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทั้งยังติดต่อไปอีกครั้งเมื่อช่วงเช้าแต่ยังติดต่อไม่ได้ และมีความจำเป็นติดต่อกับสามี เพื่อสอบถามความจริงด้วย เท่าที่ทราบสามีเป็นนักธุรกิจ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจริยธรรม และศีลธรรม คณะกรรมการบริหารพรรคก็มีอำนาจในการขับออกจากสมาชิกพรรค

ส่วนการตรวจสอบเรื่องชู้สาวสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า และการเลือกตั้งท้องถิ่น เราให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณสมบัติตามข้อบังคับ ข้อที่ 6 แต่ต้องยอมรับเรื่องส่วนตัวเป็นเรื่องยากที่จะไปสอบ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พรรคต้องรับผิดชอบในฐานะที่เป็นสถาบันการเมือง ทุกองค์กรให้ความสำคัญพรรค ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และหากลไกป้องกันมีมาตรการชัดเจนเด็ดขาด หัวหน้าพรรคก็เน้นย้ำเรื่องนี้มาโดยตลอด เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคต่อไป

เมื่อมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ในฐานะพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบ พูดความจริงกับสังคมเพื่อให้สังคมได้รับรับทราบ แต่ต้องเป็นความรับผิดชอบที่จริงใจ มีกระบวนการอย่างแท้จริงเพื่อให้สังคมเห็นว่าเราเป็นสถาบันทางการเมืองอาสารับใช้พี่น้องประชาชน หากเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล เรื่องที่เกี่ยวกับศีลธรรม และจริยธรรม ถ้าไม่ให้ความสำคัญพี่น้องประชาชนจะไว้วางใจและศรัทธาเราได้อย่างไร