‘ทวี’ ลั่น ถือเป็นข้อสั่งการของรัฐมนตรี ‘ราชทัณฑ์‘ ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด ที่สื่อมวลชน และประชาชนสงสัย
วันนี้ (11 มี.ค. 68) ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการตรวจสอบกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ว่า สาเหตุการเสียชีวิต เราเชื่อว่าต้องรับฟังพยานต่างๆ ให้รอบด้าน ซึ่งเราเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าซักถามในประเด็นที่สงสัย และขอยืนยันว่า วันนี้เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ เป็นรัฐบาลโปร่งใส รัฐบาลตรวจสอบได้ และรัฐบาลที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องกลัวอะไร
ส่วนที่ครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้ไปยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ให้ตรวจสอบการเสียชีวิตภายในเรือนจำนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เร่งรัดให้อธิบดีดีเอสไอจัดการประชุม โดยในที่ประชุม นอกจาก ดีเอสไอแล้วยังมีฝ่ายปกครอง อัยการสูงสุด และตำรวจ ซึ่งเราต้องการข้อมูลไปใช้ในการพิจารณา ตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เพราะมีเรื่องของสิทธิการได้รับการเยียวยา อีกทั้ง กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่เกิดการผลักดันขึ้นมา ก็มาจากกรณีของอดีตผู้กำกับโจ้ เราจึงต้องใช้กฎหมายนี้ให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย พร้อมย้ำว่า คดีนี้ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง ต้องร่วมกันทำ ไม่ว่าหน่วยงานใดจะถือสำนวนคดี
ส่วนจะมีการเปิดเผยกล้องวงจรปิดของเรือนจำตัวเต็มได้เมื่อไหร่นั้น พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ตำรวจได้กล้องวงจรปิดไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ก็สามารถเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ หากสื่อมวลชนมีความสงสัยในประเด็นใดให้ถามได้ทั้งหมด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ ภายในเรือนจำนั้น การผูกคอตายถือว่ามากที่สุด อย่างไรก็ตามปีนี้ถือว่าน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่การเสียชีวิตภายในเรือนจำน้อยกว่าการเสียชีวิตข้างนอกมาก
สำหรับความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า คาดหวังว่าในวันที่ 17 มีนาคมนี้จะได้รับรายงานความคืบหน้าและความชัดเจนเพิ่มขึ้น ส่วนจะมีเรื่องของการทำร้ายร่างกายผู้ต้องขังเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบ หากพบว่ามีการทำร้ายผู้ต้องขังจริง ฝ่ายใดจะเป็นคนแจ้งความผิดตามมาตรา 157 นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อย่าพึ่งสมมุติ ขอให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการ แต่ยืนยันจะไม่ช่วยเหลือใครทั้งนั้น
ส่วนครอบครัวของอดีตผู้กำกับโจ้มีความประสงค์จะให้ย้ายผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมนั้น พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ขอให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่จะไม่ปกป้องใคร ซึ่งทุกข้อเท็จจริงจะต้องเป็นไปตามข้อมูลพยานหลักฐาน ส่วนที่ครอบครัวระบุว่าเคยยื่นหนังสือร้องเรียนไปถึงเรือนจำถึง 4 ครั้ง แต่กลับถูกเพิกเฉย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขอให้รอการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่า หากพบว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตายใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า ต้องเป็นผู้ที่ทำให้ตายต้องรับผิดชอบ
สำหรับประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์คำสัมภาษณ์ของตนกรณีห้องขังที่ติดกับห้องของอดีตผู้กำกับโจ้เป็นผู้หญิงหรือ LGBTQ นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนเองเข้าใจผิด ผู้ต้องขังรายนั้นเป็นผู้ชายที่แปลงเพศ ซึ่งในเรือนจำคลองเปรมมีผู้ต้องขังที่เป็น LGBTQ ถึง 88 คนแปลงเพศแล้ว 18 คน ซึ่งหลักปฏิบัติทั้งหมดเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน ส่วนเรื่องประจำเดือนก็เป็นการเข้าใจผิดเช่นกัน
ส่วนในเรื่องประเด็น และขนาดผ้าขนหนู พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นในส่วนของงบประมาณที่กรมราชทัณฑ์นำไปจัดซื้อ เพื่อนำมาให้ผู้ต้องขัง ซึ่งขนาดผ้าที่ชัดเจนต้องถามจากพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวย้ำถามว่าผู้ต้องขังสามารถนำผ้าเช็ดตัวนอกเหนือจากผ้า 3 ผืนเข้ามาได้หรือไม่นั้น “เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์รวมถึงเครื่องแต่งกายด้วย”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ทางกรมราชทัณฑ์จะนำผ้าขนหนูตัวอย่างนำมาโชว์แก่สื่อมวลชน พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ก็สามารถทำได้เพราะไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อนที่ต้องปิดบัง เราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน ย้ำว่าไม่เห็นมีอะไรต้องปิดบัง และการที่ให้สัมภาษณ์ตรงนี้ ถือเป็นข้อสั่งการแล้ว มีอะไรก็ต้องเปิดเผยทั้งหมด












