นายกฯ ยัน มาต่างประเทศเป็นการแก้วิกฤต ทั้งเซ็นสัญญา – ดึงดูดนักลงทุน
นายกฯ ยัน มาต่างประเทศเป็นการแก้วิกฤต ทั้งเซ็นสัญญา – ดึงดูดนักลงทุน ชี้ กรณี ‘แพทองธาร‘ ร่วมคณะฯ เป็นการช่วยกันทำงาน ขออย่ามองว่าทับซ้อนอำนาจมอง
วันนี้ (11 มี.ค. 67) เมื่อเวลา 11:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีสื่อวิพากษ์วิจารณ์ว่ามาต่างประเทศ แล้วบอกจะแก้วิกฤติประเทศได้อย่างไร ว่า การที่เดินทางมาต่างประเทศ ก็ถือเป็นการแก้วิกฤติอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเซ็นสัญญา FTA ซึ่งในอดีตไม่ได้ทำ การดึงนักลงทุนไปลงทุนในประเทศ ในอดีตก็ไม่มีการทำ ซึ่งถือเป็นการแก้วิกฤติในระยะกลาง และระยะยาวอยู่แล้ว ถ้าเกิดมีนักลงทุนเข้ามาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอย ทำให้มีจ้างงานที่มากขึ้น เชื่อว่าจะเป็นจุดหนึ่งในการแก้ไขปัญหาวิกฤติ
ส่วนมีกังวลต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาเรื่อย ๆ หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนตัวกังวลทุกเรื่อง และรับฟังทุกเรื่องกับทุกสื่อที่ให้คอมเมนต์มา หากทำได้ ก็จะปรับปรุงตัวเอง และปรับปรุงวิธีการทำงานของตัวเอง
ส่วนการร่วมคณะของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่ถูกมองว่าเป็นภาพทับซ้อนของอำนาจนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอให้ดูว่าเป็นการช่วยกันทำงานมากกว่า เพราะนางสาวแพทองธาร เป็นรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งตนเองมาเจอบริษัทใหญ่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับซอฟพาวเวอร์ เกี่ยวกับเรื่องแฟชั่น เกี่ยวกับเรื่องดีไซน์ และอีเวนท์ ว่าจะสามารถเอาสินค้าอะไรเข้าไปได้บ้าง
นายกรัฐมนตรี ยังยกตัวอย่างว่า เมื่อวานไปห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงปารีส มีห้องสตูดิโอ ที่เป็นพื้นที่ให้กับดีไซเนอร์รุ่นใหม่มาพบปะพูดคุยกัน นางสาวแพทองธาร ก็บอกว่าจะนำไปทำที่พรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดโอกาสเปิดพื้นที่ให้กับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ที่มีไอเดียใหม่ ๆ ได้มาพบปะพูดคุยกัน ขออย่าคิดว่าเป็นการทับซ้อนอำนาจหรือไม่มองว่าเป็นการช่วยกันทำงานมากกว่า เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยอยู่ในช่วงวิกฤติ ทำคนเดียวอาจจะไม่ไหวต้องมีคนช่วยทำด้วย ส่วนตัวไม่ได้ติดอะไรตรงนี้