‘พิพัฒน์’ เยือนเกาหลี หารือสำนักงานสวัสดิการแห่งชาติ
‘พิพัฒน์’ เยือนเกาหลี หารือสำนักงานสวัสดิการแห่งชาติ เล็งแก้ พ.ร.บ.ประกันสังคม ดึงบางอาชีพเข้าสู่ระบบ
วันนี้ (11 มี.ค. 67) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม หารือประเด็นการคุ้มครองลูกจ้างที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ร่วมกับสำนักงานสวัสดิการแห่งชาติ (K-COMWEL) สาธารณรัฐเกาหลี
Mr.Park Jongkil ประธาน K-COMWEL อธิบายถึงประกันอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยระบุว่าหากแรงงานเกิดอุบัติเหตุ สามารถเบิกรักษาพยาบาลเต็มจำนวน และช่วยฟื้นฟูแรงงานให้กลับมาทำงานได้ โดย K-COMWEL มีงบประมาณ 10 ล้านล้านวอน ในจำนวนนี้เป็นประกันอุบัติเหตุจากการทำงาน 7 ล้านล้านวอน และมีโรงพยาบาลในสังกัดอีกประมาณ 11 แห่ง และโรงพยาบาลภาคเอกชน
K-COMWEL จะดูแลชดเชยแรงงาน 3 กรณี ได้แก่ลตกงานกะทันหัน ซึ่งจะมีเงินประกันว่างงาน อุบัติเหตุสูญเสียกำลังการทำงาน มีประกันอุบัติเหตุการทำงาน ซึ่งนายจ้างจะออกค่าใช้จ่ายดูแลลูกจ้างทั้งหมด รวมถึงกรณีรายได้ต่ำก็มีการจัดเตรียมหาสวัสดิการอื่น ๆ เป็นเครื่องรับประกันให้มีรายได้ที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ปัจจุบันมีการเสนอใช้แรงงานโดยไม่ทำสัญญาจ้าง เราจะเรียกว่า “ผู้ใช้แรงงานประเภทพิเศษ” ซึ่งมักติดปัญหา ค่าใช้จ่ายด้านประกัน และการแจ้งการจ้างงาน หากมีการเสนอใช้แรงงาน ปกตินายจ้างจะเป็นผู้แจ้ง แต่กรณีนี้ผู้ใช้แรงงานต้องแจ้งการจ้างงานเอง
Mr.Taejin Mun ผู้อำนวยการการปรับใช้ประกัน เปิดเผยถึงระบบประกันพิเศษมีการปรับให้เข้ากับยุคสมัย เพราะมีการใช้แรงงานผ่านแพลตฟอร์ม แบ่งเป็น การขับรถส่งของรวดเร็ว เจ้าของรถบรรทุก การบริการขับรถยนต์แทน และแกร็บแท็กซี่

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่ากระทรวงแรงงานเดินทางมาหารือกับ K-COMWEL เพื่อศึกษาเพิ่มเติมในส่วนที่ประกันสังคมไทยต้องปรับปรุงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ประกันตนในไทย เพราะไทยมีความคิดว่าแรงงานเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจ
ไทยมีผู้ประกันตน มาตรา 33 และ 39 จำนวน 14 ล้านคน ผู้ประกันตน มาตรา 40 จำนวน 11 ล้านคน ที่เหลือเป็นแรงงานอิสระ รวม 40 ล้านคน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือต่างด้าวก็ถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยการหารือวันนี้เน้นเรื่องเรื่องแรงงานอิสระที่ K-COMWEL ได้ศึกษาอยู่ โดยในเดือน พ.ค.นี้ กระทรวงแรงงานจะประชุมพิจารณาเสถียรภาพของสำนักงานประกันสังคม เชิญสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) พรรคการเมือง สมาคมหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจเอสเอ็มอี และ K-COMWEL เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน
นายบุญสงค์ กล่าวว่าสำนักงานประกันสังคม มีหน้าที่ดูแลลูกจ้าง-นายจ้าง และมีกองทุนเงินทดแทน ดูแลการขาดรายได้ อาการเจ็บป่วย การรักษาพยาบาล การฟื้นฟู และกรณีเสียชีวิตของลูกจ้างหรือผู้ประกันตน โดยเงื่อนไขในการให้สิทธิประโยชน์ของสำนักงานประกันสังคมและ K-COMWEL ต่างกันตรงที่กรณีประเมินความสูญเสียของลูกจ้าง
ประธาน K-COMWEL ยังตอบข้อซักถามของรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไทย ถึงกรณีการคุ้มครองแรงงานที่ไม่ทำสัญญาจ้าง โดยจะวิจัยและหารือเกี่ยวกับตลาดแรงงานประเภทนี้ทุกปี เพื่อดูว่าจะบัญญัติกลุ่มคนพวกนี้เข้าสู่แรงงานประเภทใด รวมถึงแรงงานไทยที่พำนักอาศัยอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งคุ้มครองแรงงานกลุ่มนี้ด้วย
ทั้งนี้นายพิพัฒน์ มีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับกองทุนประกันสังคม ซึ่งได้มีการหารือในที่ประชุม โดยนายพิพัฒน์เปิดเผยภายหลังว่าจะต้องมีการพิจารณาเพิ่มเติมขยายอายุกองทุน โดยเฉพาะการขยายอัตราการตัดเก็บเงินเข้ากองทุนจากเพดาน 15,000 บาท เป็น 17,500 บาท หรือ 20,000 บาท และการยืดอายุการเกษียนจากอายุ 55 ปี เป็น 60 ปี ซึ่งอยู่ในขั้นหารือ พร้อมกันนี้อยู่ระหว่างการศึกษาขอให้รัฐจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนในอัตรา 5% เทียบเท่านายจ้าง และผู้ประกันตน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอาชีพที่ไม่ได้อยู่ในกองทุน จึงจำเป็นต้องขอแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม ให้บางอาชีพ เช่น แม่บ้าน แรงงานเกษตร แรงงานต่างชาติในทัน เข้าสู่ระบบประกันสังคมด้วย













