POLITICS

‘ธนาธร’ ช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงผู้สมัคร ส.ส. 7 เขต ชัยภูมิ

‘ธนาธร’ ช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงผู้สมัคร ส.ส. 7 เขต ชัยภูมิ เปิดเวทีปราศรัยที่ อ.บ้านแท่น คนแห่ฟังล้นหลาม ย้ำเลือกแบบเดิมได้แบบเดิม อยากเปลี่ยนต้องก้าวไกลสองใบเท่านั้น

วันนี้ (11 มี.ค. 66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ร่วมเวทีปราศรัยแนะนำนโยบายของพรรคก้าวไกล และแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 6 คน ในเขตรอบนอกอำเภอเมืองจังหวัดชัยภูมิ ที่มณฑปพระแท่นบัลลังก์ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก

หลังจากการปราศรัยโดยผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 6 เขตแล้ว ธนาธร ได้ขึ้นปราศรัยปิดเวทีเป็นคนสุดท้าย เริ่มต้นด้วยการพูดถึงวงจรชีวิตของคนอีสานจากที่ตัวเองได้สัมผัส โดยระบุว่าชีวิตของคนอีสานจำนวนมากยังต้องวนเวียนอยู่ในความยากลำบาก ต้องกู้หนี้ยืมสิน กยศ.มาเรียน จบออกมาก็เป็นหนี้ ตั้งแต่เกิดจนเรียนจบ ติดลบไปแล้วสองแสนกว่าบาท จบมาก็ต้องไปหางานรับค่าแรงขั้นต่ำทำในเมือง โอกาสที่จะมีบ้าน มีที่ดิน มีรถ มีครอบครัวที่อบอุ่น กลายเป็นเรื่องยาก พอแก่ตัวลงมา การเข้าถึงบริการสาธารณะก็ยาก

ที่ผ่านมาคนไทยจ่ายภาษีมากมายในชีวิต แต่ไม่เคยเห็นดอกผลจากการจ่ายภาษีเลย ยิ่งใช้ชีวิตไปยิ่งมองไม่เห็นอนาคต ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดวงจรชีวิตแบบนี้ จะเปลี่ยนแปลงได้ต้องสู้กับโครงสร้างสังคมที่ไม่เป็นธรรม ต้องเก็บภาษีคนรวยมากกว่านี้ ยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีที่อนุญาตให้บริษัทพันล้านหมื่นล้านทำธุรกิจบางประเภทได้แบบไม่ต้องเสียภาษี

ธนาธรกล่าวต่อไป ว่าเราต้องเก็บภาษีคนที่ที่ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นมากกว่านี้เพื่อให้สังคมเป็นธรรม ที่ผ่านมาดอกผลการพัฒนาตกไปอยู่ในมือของคนร่ำรวยมากเกินไปแล้ว ตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจากนโยบายของพรรคก้าวไกล นี่คือพรรคที่จะยืนอยู่ข้างคนยากจนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ จัดการกับทุนผูกขาด ไม่ว่าจะกลุ่มทุนพลังงานที่ร่ำรวยเป็นแสนล้านภายในไม่กี่ปีจากนโยบายที่เอื้อกลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนสุราที่ผูกขาดตลาด 4 แสนล้านบาทต่อปีเพียงไม่กี่เจ้า จะแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชนต้องเข้าไปจัดการกับกลุ่มทุนพวกนี้ เปิดโอกาสให้ประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยมีโอกาสค้าขาย

นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกล ไม่เคยสัญญาว่าจะเอาโครงการอะไรมาให้ จะสร้างบ่อน้ำที่ไหน แต่พรรคก้าวไกลเสนอเรื่องปลดล็อกท้องถิ่น ปฏิรูประบบราชการ เอางบประมาณและอำนาจกลับมาอยู่ที่ตำบลและจังหวัดของทุกคน จะบริหารอย่างไรให้คนท้องถิ่นจัดการกันเอง ไม่ใช่กำหนดโครงการมาจากส่วนกลางแล้วจัดอบรมทั่วประเทศแบบที่ไม่ตอบโจทย์พื้นที่ เพราะประชาชนไม่ได้ต้องการความเมตตา แต่ต้องการความเป็นธรรม ไม่ต้องการระบบที่ต้องเขียนโครงการขึ้นไปขอแล้วรอความเมตตามอบลงมาให้

ธนาธรยังระบุด้วย ว่าอย่างไรก็ตามทุกอย่างจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างที่เห็นกันว่าพรรคก้าวไกลยืนยันเสมอถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกองทัพ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ป้องกันไม่ให้ใครมาทำลายประชาธิปไตยด้วยการรัฐประหารอีก โดยก้าวแรกคือการยกเลิกเกณฑ์ทหาร พรากอนาคตของคนหนุ่มในวัยที่มีพลังชีวิตที่สุดให้ต้องไปรับใช้บ้านนายพล

จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลนำทุกเรื่องเหล่านี้เข้าสู่สภา ทั้งด้วยการอภิปรายให้รัฐเปลี่ยนนโยบายเลิกเอื้อกลุ่มทุนพลังงาน เสนอร่างสุราก้าวหน้า เสนอร่างปลดล็อกท้องถิ่น และเรื่องอื่นๆ อีกมาก และแม้จะไม่สำเร็จด้วยความเป็นฝ่ายค้าน แต่พรรคก้าวไกลที่เป็นแค่ฝ่ายค้านก็ยังทำได้มากมายขนาดนี้ และตนยังเห็นพรรคก้าวไกลยืนยันจะทำต่อในทุกเรื่อง และจะทำจนกว่าจะสำเร็จ

“สี่ปีที่ผ่านมา จากอนาคตใหม่มาถึงก้าวไกล พวกเขาได้พิสูจน์ให้ทุกท่านเห็นแล้วว่าพวกเขาของจริง เอาจริง มีความมุ่งมั่นจริงที่จะแก้ไขประเทศไทย ไม่ใช่แบบปะผุขอไปที ทำทีละปัญหาทีละเรื่อง พรรคก้าวไกลคือพรรคที่ยืนยันว่าจะแก้ปัญหาทุกเรื่องได้ ต้องทำให้โครงสร้างสังคมเป็นธรรมมากกว่านี้ การเลือกตั้งเป็นการลงทุนที่ถูกที่สุด ต้นทุนเดียวที่ท่านต้องจ่ายคือค่ารถไปคูหา จะให้ประเทศไปในทิศทางไหนอยู่ที่การกากบาทของทุกคน อยากให้เป็นแบบเดิมก็กาแบบเดิม แต่ถ้าอยากได้การเปลี่ยนแปลงต้องกาก้าวไกลสองใบเท่านั้น” ธนาธรกล่าว

สำหรับช่วงบ่ายไปจนถึงเย็นวันนี้ ธนาธร จะยังคงเดินสายช่วยหาเสียงให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคก้าวไกลอยู่ในจังหวัดชัยภูมิอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำหนดการขึ้นรถแห่ไปตามถนนใน อ.แก้งคร้อ และ อ.คอนสวรรค์ ก่อนที่ช่วงเย็นจะมีการเดินตลาดแจกแผ่นพับและแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตอำเภอเมือง ที่ถนนคนเดินชัยภูมิ (Night Bazaar) เป็นลำดับสุดท้าย

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ พรรคก้าวไกล ทั้ง 7 เขต ประกอบด้วย
1) นัฎฐิกา โล่ห์วีระ (อ.เมือง)
2) ทัศนัย สุขประสาน (อ.บ้านเขว้า อ.เนินสง่า อ.จัตุรัส)
3) เกรียงไกร จันกกผึ้ง (อ.หนองบัวระเหว อ.ทรัพย์ใหญ่ อ.เทพสถิต)
4) สิทธิพล ภูธรณ์ (อ.หนองบัวแดง อ.ภักดีชุมพล)
5) พิมพ์กานต์ ยศพิทักษ์ (อ.เกษตรสมบูรณ์ อ.คอนสาร)
6) อรนุช ผลภิญโญ (อ.บ้านแท่น อ.ภูเขียว)
7) กิตติธัช คำวงษ์ (อ.แก้งคร้อ อ.คอนสวรรค์)

Related Posts

Send this to a friend