POLITICS

เลขาฯ กฤษฎีกา เผย ร่างกฎหมาย ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ใกล้คลอดแล้ว

ลั่น ต้องเขียนให้ชัดกาสิโนไม่เกิน 10% ก่อนชง ครม. ตามกรอบ 50 วัน บอก ไม่ใช่หน้าที่พิจารณาคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรี โยนเป็นอำนาจเลขาฯ ครม.

นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ… หรือ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ตามกรอบเวลา 50 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 6 มีนาคม 2568 ว่าน่าจะเสร็จสิ้นช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งเราพยายามทำให้เร็วในการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็จะอยู่ในกรอบ 50 วันที่กำหนดไว้

สำหรัยขั้นตอนที่เหลืออยู่ ตอนนี้เราปรับร่างฯ แล้ว เรียกว่าวาระที่ 2 โดยมีการปรับในรายละเอียด แต่รอบแรกพิจารณาในหลักการไปแล้ว ตอนนี้ปรับร่างฯ ไปเยอะ และได้นำเข้าคณะกรรมการไปแล้ว หน้าตาเป็นกรอบค่อนข้างชัดเจน มีการปรับเปลี่ยนจากร่างเดิมมากพอสมควร แต่สาระสำคัญยังคงคล้าย ๆ เดิม ส่วนการระบุว่ากาสิโนจะต้องมีกี่เปอร์เซ็นต์ เบื้องต้นตัวเลขยังไม่นิ่ง แต่คิดว่าควรจะต้องกำหนดไว้ แต่ต้องไม่เกิน 10% แล้วแต่สถานการณ์ที่เขาจะพิจารณา

ส่วนเกณฑ์ที่จะใช้ในการปรับสัดส่วน เรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่คณะกรรมการนโยบายที่จะพิจารณา แต่ส่วนตัวคิดว่าเขาคงจะต้องพิจารณาในแง่ของการลงทุนด้วย เพราะระบุไว้แล้วว่าการลงทุนต้อง 100,000 ล้านบาท และค่าใบอนุญาตอีก 5,000 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องแล้วแต่คณะกรรมการ ต้องดูแผนที่นักลงทุนเสนอเข้ามา ทั้งนี้ ร่างดังกล่าวปกติเราทำเสร็จแล้ว เราก็เปิดเผยอยู่แล้ว ไม่ได้ปกปิดอะไร ซึ่งปกติกฤษฎีกาจะนำไปลงเว็บไซต์ระบบ กฎหมายกลางอยู่แล้ว

นายปกรณ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เราทำตามนโยบายของรัฐบาล ตนเองเป็นฝ่ายข้าราชการประจำ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องแล้วแต่นโยบายรัฐบาล ส่วนที่พยายามเรียกร้องกันเพื่อทบทวนร่างกฎหมาย ตนเองเข้าใจดี แต่ก็ต้องเข้าใจเรื่องระบบในการทำงานด้วยว่าฝ่ายข้าราชการประจำจะไปทำตัวเป็นฝ่ายบริหารเสียเองมันไม่ถูก ถ้าเป็นเรื่องนโยบายก็อยู่ที่ทางรัฐบาลจะพิจารณา ถ้าจะทำประชามติก็ต้องให้รัฐบาลเป็นฝ่ายดำเนินการ

ส่วนข้อกังวลของนักวิชาการ เนื่องจากร่างกฎหมายมีการระบุว่าสำนักงานสามารถหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดไว้ก่อนเหลือเท่าใดจึงค่อยนำส่งเป็นเงินแผ่นดิน ซึ่งเรื่องนี้ด้วยหลักของกฎหมายวินัยการเงินการคลัง ภาษีต้องเข้ารัฐ การหักค่าใช้จ่ายต้องแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นค่าธรรมเนียม และค่าบริการ ซึ่งเรื่องค่าธรรมเนียมหรือใบอนุญาตต่าง ๆ โดยหลักแล้วต้องเข้าหลวง ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายการเงินการคลัง ส่วนมากจะหักไม่ได้เท่าไหร่ เอามาเป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงาน ตรงนี้เป็นแนวปฏิบัติทั่วไปอยู่แล้ว เป็นความตกลงของกระทรวงการคลัง

นายปกรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจคุณสมบัติผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี หากมีการปรับ ครม.ใหม่ ว่า ไม่ใช่หน้าที่ของกฤษฎีกาในการตรวจสอบคุณสมบัติ เป็นเรื่องของเลขา ครม.

เมื่อถามว่าถ้าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอไปก็ต้องมีการตรวจสอบใช่หรือไม่ นายปกรณ์ ระบุว่า ไม่ตอบดีกว่า

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat