‘ไมค์ ภาณุพงศ์’ ออกจากเรือนจำแล้ว ขอบคุณแรงใจจากยืนหยุดขัง
พร้อมสู้ต่อ ใกล้จุดหมายเกินหันกลับ ห่วงปัญหาน้ำมันรั่วที่ระยอง ฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องป้องกันให้รัดกุม เร่งเยียวยาประชาชนให้ทั่วถึง
วันนี้ (11 ก.พ. 65) เวลาประมาณ 18:00 น. นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครแล้ว หลังถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2564 โดยศาลฯกำหนดเงื่อนไขในการปล่อยตัวชั่วคราว ห้ามกระทำการใดๆกระทบสถาบันฯ ห้ามออกนอกเคหะสถานในเวลา 18:00-06:00 น. ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ติดกำไล EM
ภาณุพงศ์ กล่าวว่า ดีใจที่ได้ออกมาเจอหน้าแม่เพราะแม่สุขภาพไม่แข็งแรง ดีใจที่แม่ยังสู้กับเรา ขอบคุณทุกกิจกรรมที่เรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเรา ทั้งยืนที่เชียงใหม่ อุบลราชธานี นนทบุรี หน้าศาลฎีกา รวมถึงที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทุกครั้งที่ผิดหวังกับกระบวนการยุติธรรม เราจะได้รับกำลังใจจากป้าๆ ลุงๆ และทุกคนที่ยืนให้พวกเรา เป็นกำลังใจให้กับพี่น้องผู้ต้องขังคนอื่นที่กลับจากศาลด้วย เขาได้เห็นคนยังยืนให้กำลังใจ ชูป้ายให้กำลังใจ ชูป้ายปล่อยเพื่อนเรา และยังรอเพื่อนในเรือนจำอีก ทั้ง เพนกวิน ทนายอานนท์ เพื่อนทะลุฟ้า ทะลุแก๊ซ ทุกๆคนต่างสู้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งและกล้าหาญ ไม่ท้อแท้หรืออ่อนแอกับอุปสรรคที่เจอ ทุกคนมีความหวังในทุกการต่อสู้ ไม่ว่าจะติดคุกนานแค่ไหน หรือต้องสู้นานแค่ไหน ก็จะทำให้ถึงหวังที่ตั้งใจไว้
เรื่องสุขภาพของอานนท์และเพนกวิน ไมค์กล่าวว่า อานนท์และเพนกวินยังมีสุขภาพจิตและร่างกายที่แข็งแรง เป็นห่วงอานนท์ที่ยังมีอาการลองโควิดหลังติดเชื้อโควิดเมื่อครั้งก่อน เพนกวินก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพ อยากให้เพื่อนทุกคนรวมถึงกลุ่มทะลุฟ้า ทะลุแก๊ซ ได้ออกมาใช้ชีวิตและดูแลตัวเองให้ดีกว่าที่อยู่ในเรือนจำ ทุกคนฝากข้อความมาว่า ให้สบายใจได้ ไม่มีใครหยุดสู้ ไม่มีใครอ่อนแอ ต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากนี้ ภาณุพงศ์กล่าวว่า ในภายภาคหน้าอะไรจะเกิดก็ย่อมเกิดขึ้น พร้อมเผชิญกับทุกสิ่ง เราเดินมาใกล้จุดหมายมากกว่าที่เราจะถอยหลังกลับไปที่จุดเริ่มต้น
ผู้สื่อข่าว The Reporters สอบถามความคิดเห็นประเด็นน้ำมันดิบรั่วไหลในเขตจังหวัดระยอง ในฐานะที่ภาณุพงศ์เคยทำกิจกรรมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกับกลุ่มเยาวชนในจังหวัดระยองมาก่อน ภาณุพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาที่สำคัญเพราะเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2556 เป็นห่วงพี่น้องชาวจังหวัดระยอง ทั้งพ่อค้าแม่ขาย ธุรกิจท่องเที่ยว และผู้ประกอบอาชีพประมง ย้ำว่าไม่เคยต่อต้านความก้าวหน้าของจังหวัด แต่ขอส่งเสียงถึงนายทุนและผู้มีอำนาจให้ช่วยเยียวยาพี่น้องชาวระยอง เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับประชาชนในจังหวัดระยองได้อย่างยั่งยืน อยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องระมัดระวังมากกว่านี้ ผ่านมากว่า 10 ปีไม่ควรเกิดข้อผิดพลาดขึ้นอีก อยากให้เกิดการทบทวนและการป้องกันให้รัดกุมที่สุด และจะใช้โอกาสนี้ในการลงพื้นที่ด้วย
