POLITICS

พล.อ.ประวิตร หารือทูตอิหร่านฯ ดันส่งออกข้าว ส่งเสริมการท่องเที่ยวหลังโควิด

รองนายกฯ พล.อ.ประวิตรฯ หารือ เอกอัครราชทูตอิหร่านฯ ย้ำความสัมพันธ์ไทย-อิหร่าน พร้อมผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันอย่างเป็นรูปธรรม

วันนี้ (11 ม.ค.66) เวลา 14.30 น. นายซัยยิด เรซา โนบัคตี (His Excellency Mr. Seyed Reza Nobakhti) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-อิหร่าน ณ ทำเนียบรัฐบาล

เอกอัครราชทูตฯ กล่าวแสดงความยินดีที่ได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ โดยเป็นโอกาสสำคัญที่จะหารือแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-อิหร่าน ในสาขาที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งด้านความมั่นคง พลังงาน เศรษฐกิจ การค้า สังคมวัฒนธรรม และสาธารณสุข รวมทั้งพัฒนาสาขาใหม่ๆ แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จะเป็นอุปสรรคต่อการทำการค้าระหว่างกัน จึงต้องส่งเสริมให้เกิดเวทีการหารือ การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูง รวมทั้งการเยือนของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้า และประธานองค์การส่งเสริมการค้าอิหร่าน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะสามารถส่งเสริมผลักดันให้เกิดความร่วมมือได้อย่างเป็นรูปธรรม

ด้าน รองนายกฯ กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูต ยินดีที่ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นต่อกันด้วยดีเสมอมา เชื่อว่าไทยและอิหร่านมีศักยภาพที่จะร่วมมือกันได้ พร้อมผลักดันให้เกิดการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างข้าวของไทยและปุ๋ยของอิหร่านให้เป็นผลสำเร็จ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับสินค้าอื่น ๆ และยินดีที่นักท่องเที่ยวอิหร่านกลับมาท่องเที่ยวไทยหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 หวังว่าทั้งสองประเทศจะส่งเสริมให้เกิดการเดินทางการท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้ขอบคุณรัฐบาลอิหร่านที่สนับสนุนไทยในเวทีพหุภาคี หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนให้ไทยได้เป็นเจ้าภาพงานภูเก็ตเอ็กซ์โป 2028 ซึ่งมีมนุษย์ สิ่งแวดล้อม และการเติบโตร่วมกัน (People-Planet-Prosperity) เป็นจุดเน้น ซึ่งหากได้รับเลือกไทยจะเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้จัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษนี้

ทั้งนี้ รองนายกฯ รู้สึกยินดีที่รับทราบข่าวการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน และซาอุดิอาระเบีย ในเวทีการประชุม Baghdad Conference for Cooperation and Partnership ครั้งที่ 2 ณ จอร์แดน เมื่อปลายปี 2565 ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวก ยืนยันว่าไทยพร้อมสนับสนุนให้เกิดสันติภาพและความร่วมมือของตะวันออกกลาง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดสันติภาพในโลกโดยรวม

Related Posts

Send this to a friend