‘ธรรมนัส’ ย้ำ ปม ’ไชยา‘ ร้องไร้อำนาจแต่งตั้ง ขรก. เคลียร์จบแล้ว
‘ธรรมนัส’ ย้ำ ปม ’ไชยา‘ ร้องไร้อำนาจแต่งตั้ง ขรก. เคลียร์จบแล้ว ชี้ เป็นอำนาจรัฐมนตรีว่าการตามรัฐธรรมนูญ หากไม่จบ คงต้องดูแลกรมใหญ่เอง
วันนี้ (1 พ.ย. 66) ที่ทําเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้โอบหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาให้สัมภาษณ์ร่วมกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ถึงกรณีที่นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาระบุปัญหาการทำงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายภูมิธรรม กล่าวว่าเรื่องในกระทรวงได้คุยเรียบร้อยแล้วไม่มีปัญหา ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน อาจจะมีเรื่องนี้บ้าง แต่ละครั้งแต่ละตอน แต่เป็นเรื่องธรรมดา แล้วหันไปถาม ร.อ.ธรรมนัส ว่า “ถูกหรือไม่” ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ตอบกล่าว “ครับ” นายภูมิธรรม จึงกล่าวว่า “ยืนยันเรื่องนี้จบนะ”
ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับสื่อมวลชน ระบุว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายไชยา ได้มาแจ้งว่าให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเด็นเกี่ยวกับงานในกระทรวง แต่ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งนี้ เมื่อเป็นประเด็นขึ้นมา ก็ได้คุยกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทย (พท.) และได้เรียนกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งนายกฯ ก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไร รวมทั้งได้หารือกับนายภูมิธรรม ซึ่งก็ไม่มีอะไร เป็นเพียงฤดูกาลปรับย้ายข้าราชการระดับต้น และระดับสูง คงจะมีข้าราชการไปพูดคุยกับนายไชยา และเมื่อสื่อมวลชนถามนายไชยา นายไชยาก็เลยตอบ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า เมื่อเกิดประเด็น นายไชยาก็ได้โทรศัพท์มาขอโทษ ที่ทำให้เป็นประเด็น ทั้งนี้ ตนเองจึงอยากบอกว่าเวลาสื่อมวลชนจะถามประเด็นเรื่องการมอบดูแลเรื่องงบประมาณ และบุคคล ไม่มีกระทรวงไหนเขาทำกัน เพราะเวลาเกิดประเด็นปัญหาขึ้น คนที่รับผิดชอบคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เป็นเรื่องประเพณีปฏิบัติ สมัยที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ก็สามารถทำงานได้ภายใต้กรอบงานที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้น ปัญหาที่รัฐมนตรีใหม่หลายคนยังไม่เข้าใจ คือความรับผิดชอบภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อถามว่าหากนายไชยาออกมาพูดอีกจะทำอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ผมได้คุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจก็คงจะต้องมีมาตรการอื่นในการเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลกรมต่าง ๆ โดยผมอาจจะดูว่ากรมไหนที่ใหญ่ ๆ ผมอาจจะเอามาดูแลเอง
