‘ลิณธิภรณ์‘ เผยเป็นสิทธิ ‘ภูมิใจไทย’ เห็นต่างกฎหมายสกัดปฏิวัติ
‘ลิณธิภรณ์‘ เผยเป็นสิทธิ ‘ภูมิใจไทย’ เห็นต่างกฎหมายสกัดปฏิวัติ เชื่อไม่กระทบการทำงานพรรคร่วม ลุยถกในที่ประชุมพรรคหาข้อสรุป 12 ธ.ค.นี้
วันนี้ (10 ธ.ค. 67) นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวุฃถึงกรณีที่ นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะเสนอ ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ …) พ.ศ. …. ที่ล่าสุดนายประยุทธ์ระบุว่าเรื่องนี้ผ่านมติของคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมายของพรรคเพื่อไทยเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรคแล้วว่า ในกระบวนการเสนอร่างกฎหมายของพรรคเพื่อไทยจะมีคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย สส.มีอำนาจในการเสนอกฎหมายที่ตนเองสนใจและร่างขึ้นมา โดยขั้นตอนของการเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย ตะเป็นการพิจารณาด้วยหลักการและเหตุผลว่าถูกต้องในระเบียบการร่างหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อกฎหมายขั้นพื้นฐานก่อน
สำหรับร่างกฎหมายฉบับใดจะเข้าสู่การพิจารณา จะผ่านมติพรรค และรับรองโดย สส.ซึ่งจะมีการประชุมในเช้าวันพฤหัสบดีนี้ (12 ธ.ค.67) ส่วนจะผ่านหรือไม่ผ่าน จะต้องมีการหารือร่วมกันกับ สส.ในพรรคทั้งหมด ทั้งนี้ที่นายอนุทินชาญ วีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับดังกล่าวนั้น ตนเองขอไม่ก้าวล่วงความคิดเห็น แต่พรรคเพื่อไทย และสส.หลายคนก็เพิ่งทราบว่าจะมีการเสนอกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้นจึงจะต้องมีการถกเถียงและลงมติอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีทั้งส่วนที่เห็นต่างและเห็นสอดคล้องกัน เราจะพิจารณาในความเหมาะสม หากเทียบสองร่างที่เคยมีทั้งร่างของนายสุทิน คลังแสง และร่างฉบับนี้มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญในหลายประเด็น
อย่างไรก็ตามมติเสียงส่วนใหญ่เป็นอย่างไร สส.พรรคเพื่อไทยก็พร้อมเคารพในมติของพรรค ทั้งนี้ที่นายประยุทธ์ระบุว่าทบทวนอาจยอมได้ แต่ถ้าให้ถอนไม่ยอมจะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่นั้น ถือเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่หลายเหตุการณ์มีความเห็นต่างกัน หากเสียงส่วนใหญ่เป็นอย่างไร พรรคเพื่อไทยก็จะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เราคิดว่าการคุยกันด้วยเหตุผลที่แตกต่าง น่าจะมีเหตุผลที่ชัดเจน ไม่น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้ง
สำหรับเสียง สส.ส่วนใหญ่ภายในพรรคมีทั้งไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข และส่วนที่เห็นด้วย แต่ยังไม่ได้เช็กเสียงชัด ๆ เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดประชุมสภาฯ สส. ลงพื้นที่ต่างจังหวัด จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างชัดเจน โดยเรื่องนี้น่าจะไม่เป็นปัญหากับการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะพรรคร่วมรัฐบาลมีจุดยืนอย่างไร เราก็จะเคารพ แต่เรื่องนี้เป็นกฎหมายที่พรรคเพื่อไทยเสนอ จึงเป็นเรื่องมติภายในพรรคเพื่อไทยว่าเห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคอื่น พรรคอื่นมีสิทธิ์แสดงจุดยืนได้ เพราะที่ผ่านมามีกฎหมายหลายฉบับที่พรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยเห็นต่างกัน แต่เราก็ยังร่วมรัฐบาลกันได้ โดยเฉพาะเรื่องการผลักดันเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า
ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าพรรคเพื่อไทยสามารถยืนยันได้หรือไม่ หากสมาชิกเห็นด้วยก็จะเดินหน้าต่อ นางสาวลิณธิภรณ์ กล่าวว่าถ้าเสียงส่วนใหญ่ในมติที่ประชุมเห็นด้วย เราก็เคารพก็จะต้องผลักดันสู่สภาฯ แต่เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ เพราะมีทั้งเสียงเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย












