POLITICS

‘ภูมิธรรม’ โต้ ‘คำสั่งหยุดยิงจากฝ่ายการเมือง’ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

‘ภูมิธรรม’ โต้ ‘คำสั่งหยุดยิงจากฝ่ายการเมือง’ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เหตุ กองทัพมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเชิงยุทธวิธี ไม่ต้องรอคำสั่งจากฝ่ายการเมือง ลั่น เชื่อมั่นความเป็นมืออาชีพผู้นำเหล่าทัพ ย้ำ ทุกการตัดสินใจมีจุดยืน ‘ปกป้องอธิปไตย หลีกเลี่ยงความรุนแรง ลดความสูญเสีย’

นายภูมิธรรม เวชยชัย ชี้แจงกรณีการให้สัมภาษณ์ของ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษา ผบ.ทบ. ซึ่งระบุเมื่อครั้งเกิดเหตุปะทะ มีผู้ใหญ่โทรสั่งหยุดยิง ทำให้มีการเชื่อมโยงไปถึงนายภูมิธรรมว่า ในฐานะผู้เคยปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านความมั่นคง และประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ควรนำข้อเท็จจริงจากช่วงเวลานั้นมาอธิบายให้ประชาชนรับทราบอย่างชัดเจนดังนี้

1.หลังจากเกิดเหตุความตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชา รัฐบาลในขณะนั้นได้เรียกประชุม สมช. เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 โดยที่ประชุมได้หารืออย่างรอบคอบ และมีมติสำคัญคือ มอบอำนาจให้กองทัพสามารถตัดสินใจได้ตามหลัก Rules Of Engagement (ROE) หมายความว่า กองทัพไทยมีอำนาจเต็มในการตัดสินใจเชิงยุทธวิธี เพื่อป้องกันประเทศตามสถานการณ์ในพื้นที่โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากฝ่ายการเมือง

2.การปฏิบัติการป้องกันประเทศในครั้งนั้นมีสองระดับที่ชัดเจน คือ ระดับนโยบาย (รัฐบาล) กำหนดกรอบยุทธศาสตร์และแนวทางทางการเมือง เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และระดับปฏิบัติ (กองทัพ) เป็นผู้ดำเนินการตามหลักยุทธวิธีและ ROE ที่ได้รับมอบอำนาจเต็มจาก สมช. ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า ‘มีคำสั่งหยุดยิงจากฝ่ายการเมือง’ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะกองทัพได้รับอำนาจในการปฏิบัติอย่างอิสระ ภายใต้กรอบกฎหมาย และกติกาสากล

3.ตลอดช่วงสถานการณ์มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่าง สมช. กระทรวงกลาโหม และกองทัพภาคที่เกี่ยวข้อง โดย สมช. ทำหน้าที่กำหนดทิศทางและเป็นศูนย์รวมข้อมูลให้รัฐบาลใช้ตัดสินใจในเชิงนโยบาย ขณะที่หน่วยปฏิบัติได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายและเสรีในการปฏิบัติหน้าที่ผ่านกลไกของกฎอัยการศึกเฉพาะพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับทำงานได้เต็มศักยภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลทางกฎหมายภายหลัง

กระบวนการขั้นตอนทั้งหมด รัฐบาลในขณะนั้นมีหลักการสำคัญโดยยึดมั่นในสันติวิธีตามหลักสากล และการเคารพอธิปไตยของแต่ละประเทศ แต่จะไม่ยอมให้ใครละเมิดแผ่นดินไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว และทุกการตัดสินใจอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และกลไกความมั่นคงของรัฐ

นายภูมิธรรม ระบุว่า ช่วงที่เป็น รมว.กลาโหม ได้ประสานกับผู้นำเหล่าทัพต่าง ๆ อย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีการหารือ และรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบคอบ เชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพของผู้นำเหล่าทัพ ทำให้ภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศผ่านไปด้วยความราบรื่น และอำนวยประโยชน์ให้ประเทศสูงสุด ขอให้มั่นใจว่าทุกการตัดสินใจในช่วงเวลานั้น มีจุดยืนเพียงหนึ่งเดียวคือ ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และ หลีกเลี่ยงความรุนแรงเพื่อลดความสูญเสียของกำลังพล และประชาชนตามแนวชายแดนให้ได้มากที่สุด

Related Posts

Send this to a friend