‘แพทองธาร‘ ชี้ นโยบายกินได้ คือ DNA จากไทยรักไทย
‘แพทองธาร‘ เปิดงาน MOONSHOT FORUM ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ “ยกเครื่อง 30 บาท ด้วย AI : รักษาดี อยู่ดี ตายดี” ชี้ นโยบายกินได้ คือ DNA จากไทยรักไทย ด้าน ’จุลพันธ์’ บอก รัฐราชการเข้มแข็ง ก่อให้เกิดจากรัฐประหารครองอำนาจ 10 ปี
วันนี้ (10 พ.ย. 68) เวลา 15:00 น. พรรคเพื่อไทยจัดงาน MOONSHOT FORUM ครั้งที่ 1 ในหัวข้อ “ยกเครื่อง 30 บาท ด้วย AI : รักษาดี อยู่ดี ตายดี” ที่พารากอนซีนีเพล็กซ์
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวเปิดงานว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของโลกมักเริ่มมาจากคำถามที่ง่าย ๆ ว่าเราจะสามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของคนดีขึ้นได้อย่างไร คำถามง่าย ๆ เช่นนี้ ได้สร้างนโยบายใหญ่ ๆ ให้กับโลก และประเทศมานับไม่ถ้วน ที่จริงแล้วการที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ตนเองมองว่าไม่ได้มาจากแค่การดูตัวเลข คำนวณหรือเอกสารวิจัย ถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ที่จริงแล้วง่ายกว่านั้น เพราะมาจากความฝันของคน และประสบการณ์ของคนที่พบเจอ และรู้สึกว่าจะทำอย่างไรให้โลกนี้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือทำอย่างไรจะสามารถมีเครื่องมือสำหรับทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้ ความฝันที่มีเป้าหมายนั่นคือพลังที่สำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า นโยบายดี ๆ ของพรรคเพื่อไทยที่มีมาตั้งแต่ในสมัยไทยรักไทย ที่เกิดการรวมตัวกันของทุกคน และได้มองเห็นว่าคุณภาพชีวิตของคนจริงแล้วสามารถดีขึ้นได้ จึงเกิดนโยบายที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เมื่อ 24 ปีก่อน ที่ทุกคนรู้จักและได้ใช้กันถ้วนหน้าคือนโยบาย30 บาทรักษาทุกโรค และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิต และคนไทยเป็นอย่างมากทำให้คนที่ไม่สบายเป็นโรคเรื้อรัง หรือมีคนในครอบครัวเจ็บป่วย ได้มีโอกาสมีความหวังว่าหากป่วยขึ้นมาจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องล้มละลาย หรือกู้หนี้ยืมสิน หรือสร้างหนี้ให้กับตัวเอง และครอบครัว มี 30 บาทจ่ายได้ หายได้ รักษาได้ นั่นคือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนในประเทศควรจะได้รับ และพรรคไทยรักไทยในวันนั้น ภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดขึ้นจริง และเมื่อพอส่งต่อมายังรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็ทราบดีว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งที่สำคัญ นำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาและปรับปรุงนโยบายเพื่อให้สามารถใช้ได้ดีขึ้น และทั่วถึงมากขึ้นรวมถึงเกิดประโยชน์กับคนหมู่มาก วันนี้อุปสรรคที่เข้ามา ทั้งเรื่องเทคโนโลยี และ AI หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านหรือประเทศอื่น ๆ ในโลกอาจจะมีการตกขบวนไปบ้าง แต่แน่นอนว่าก็ต้องการ คำนึงถึงศักยภาพเสถียรภาพในเรื่องการเมืองด้วย เพราะฉะนั้น การพัฒนาอย่างต่อเนื่องถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และในวันนี้จะต้องสร้างนโยบาย แบบนี้ให้เกิดขึ้นอีก นโยบายที่กล้าฝันไปเกินกรอบในสิ่งที่อาจจะเป็นไปไม่ได้เพราะว่า 30 บาท ในตอนนั้นที่ทำขึ้นมาก็ไม่มีใครเชื่อว่าจะสามารถทำนโยบายนี้ได้สำเร็จ จนในวันนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเกิดขึ้นจริงได้ และช่วยชีวิตของคนในประเทศได้จริง ๆ นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยอยากจะผลักดันให้เกิดขึ้นอีกให้ได้
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่า นโยบายที่กินได้และดีต่อชีวิตคนจริง ๆ นี่เป็น DNA แท้ ๆ ของพรรคเพื่อไทย ตนเองอยากให้ทุกคนมีความหวัง และความฝันที่มากยิ่งขึ้นกล้าฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง และทำมันให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ อยากให้คนไทยมีความหวังและความฝันว่า ความฝันเล็ก ๆ เกิดขึ้นได้จริง ต้องขอให้มั่นใจว่าเราจะมีนโยบายดี ๆ ที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยต่อไป
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าววัตถุประสงค์งานก่อนเข้าสู่เสวนาว่า เป็นวันที่เราจะมาปลุกจินตนายการ และความฝันร่วมกัน ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยทำนโยบายที่ท้าทายจำนวนมาก ในช่วงที่ตนเองเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังมีคนถามมาว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไร คือรัฐราชการเข้มแข็งขึ้น รัฐประหารครองอำนาจยาวนานถึง 10 ปี ทำให้ขาดความยืดหยุ่น ไร้ความฝัน และพบแรงต้าน วันนี้จึงต้องปลุกความฝันกลับมา
วันนี้เราต้องตั้งเป้านโยบายให้ไกล ให้ครบวงจร เหมือนการส่งจรวดไปดวงจันทร์ในวันนั้นไม่มีใครเชื่อ แต่ประธานาธิบดีสหรัฐสมัยนั้นระบุว่า เพราะมันยาก และจำเป็นต่อการก้าวกระโดดของมนุษยชาติ เหมือนกับนโยบาย 30 บาท ที่เราตั้งขึ้นมาพร้อมกับความสงสัย วันนี้การแก้ไขปัญหาระบบน้ำ PM 2.5 หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่เราต้องเดินหน้านโยบายให้ไกลไปให้ถึงประชาชน ทั้งนี้ นโยบายของพรรคเพื่อไทย มาจากนักคิด นักฝัน ที่ต้องการทำให้สำเร็จ รวมถึงตอบคำถามทางวิชาการ เดินหน้าสู่การปฏิบัติจริงได้ ตอบโจทย์ประชาชน เมื่อนำ AI เข้ามาจะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่าย หวังว่า MOONSHOT FORUM จะนำความสำเร็จสู่ระบบสาธารณสุขไทย
