‘ฝ่ายค้าน’ ยื่นศาลปกครองขอสั่งเพิกถอนประกาศ สธ. ปลดล็อกกัญชา

‘ฝ่ายค้าน’ ชน ‘กัญชาเสรี’ ยื่นศาลปกครองฟ้อง ‘อนุทิน-ป.ป.ส.’ ขอสั่งเพิกถอนประกาศ สธ. ปลดล็อกกัญชาเกินควบคุม

วันนี้ (10 พ.ย. 65) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายวิรัตน์ วรศสิริน รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ และ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนชาวไทย

ร่วมประสานงานกับ นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ กรรมการแพทยสภา และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย เดินทางเข้ายื่นฟ้อง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อเช้าวันนี้ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ

เพื่อขอให้ศาลมีคําพิพากษาให้เพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ก.พ. 2565 เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีการออกประกาศฉบับดังกล่าว และให้กัญชาจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ธ.ค. 2563 เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ. 2563 ดังเดิม

พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคําสั่งคุ้มครองชั่วคราว ด้วยการทุเลาการบังคับ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีด้วย เนื่องจากเห็นว่าการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและ ป.ป.ส. ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 เป็นผลให้กัญชา ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษอีกต่อไป เป็นการกระทําที่ไม่สุจริตและเป็นการใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ

เพราะการออกประกาศฉบับดังกล่าว ไม่มีมาตรการทางกฎหมายออกมาควบคุม คุ้มครองประชาชนผู้บริโภคเกี่ยวกับกัญชาโดยเฉพาะ ขัดต่อนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา อีกทั้งการกําหนดดังกล่าวไม่เป็นการชัดเจนกรณีใดจะเป็นใช้ทางการแพทย์หรือทางการ นันทนาการหรือไม่เพียงใด การออกประกาศฉบับพิพาทดังกล่าว จึงเป็นการเพิ่มภาระแก่ประชาชนเกินสมควร เป็นการกระทําที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน

นพ.สมิทธิ์ กล่าวว่า การร่วมกันฟ้องให้มีการเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุขในวันนี้ เราไม่ได้คัดค้านนโยบายการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ เพราะถึงไม่มีประกาศฉบับนี้ ประเทศไทยก็ยังสามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ต่อไปได้ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2563

เพียงแต่ต้องการใช้ให้มีการเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับปี 2565 ออกไป จนกว่า กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะออกกฎหมายควบคุม คุ้มครองประชาชนผู้บริโภค เกี่ยวกับการใช้กัญชาโดยเฉพาะ ให้มีความชัดเจนในการปฏิบัติก่อน เนื่องจากทุกวันนี้รัฐบาลไม่สามารถควบคุมป้องกันการใช้กัญชาในกลุ่มเด็กและเยาวชนได้ จนกลายเป็นการเปิดการใช้กัญชาอย่างเสรีในหลายชุมชน สร้างปัญหาระยะยาวของสังคมไทย

“กัญชาเสรีที่สุดในโลก กฎหมายนี้ไม่มีอะไรควบคุมได้ มีการปล่อยให้เด็กใช้กันอย่างมากมายดังที่ปรากฏเป็นข่าว แม้ พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะมา ก็ไม่ทัน ยังต้องเสียเวลาทำอะไรอีกมากมาย อีกทั้งกฎหมายดังกล่าวยังไม่พร้อมสมบูรณ์ด้วย ผมจึงเห็นว่าควรต้องยื่นตั้งนานแล้ว ขอขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกท่านที่เป็นผู้ร่วมยื่นฟ้องและเป็นผู้เขียนคำร้อง” นพ.สมิทธิ์ กล่าว

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวขอบคุณ นพ.สมิทธิ์ ที่ร่วมกันยื่นฟ้อง และทำให้คำร้องตรงตามวัตถุประสงค์เพราะมาจากภาคประชาชน พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมีมติเห็นพ้องต้องกันว่าจะดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ติดขัดว่าหากเป็นฝ่ายนิติบัญญัติยื่นฟ้องเอง ศาลอาจจะตีตก จึงได้มีภาคประชาชนเป็นผู้เสียหายยื่นฟ้องเอง เพื่อระงับยับยั้งและคุ้มครองเยาวชน จำเป็นต้องยื่นคำร้องนี้เพื่อให้เพิกถอนประกาศและคำสั่งคุ้มครองซึ่งมีกระบวนการอันมิชอบ

สำหรับจุดยืนในสภา เมื่อร่าง พ.ร.บ. กัญชา กัญชง เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 2 โดยพิจารณาเป็นรายมาตรา หากคำสงวนคำแปรญัตติสามารถสู้ได้ หรือสามารถปรับแก้ถ้อยคำบางส่วนที่ระบุว่าการจะไม่ใช่สารเสพติด แต่เป็นพืชสมุนไพรที่ต้องควบคุม พรรคร่วมฝ่ายค้านก็อาจจะเห็นชอบ แต่เนื่องจากกรรมาธิการฯ ไม่ได้รับข้อเสนอของพรรคการเมืองอื่นๆ เข้าไปปรับแก้เลย ถ้าเป็นอย่างนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านต้องโหวตไม่เห็นชอบแน่นอน

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ที่ใดมียาเสพติด ที่นั่นไม่มีสันติภาพ เรายื่นฟ้องต่อศาลปกครองครั้งนี้ ก็เพื่อคุ้มครองประชาชน และสะท้อนให้เห็นว่านโยบาย 12 ข้อที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ว่าจะปราบปรามยาเสพติดนั้น กลับเป็นนโยบายที่ส่งเสริมยาเสพติดเสียเอง