POLITICS

องค์ประชุมปริ่มน้ำ ไม่ล่ม! ด้วยการกดบัตร ‘จุลพันธ์’ เสนอนับใหม่ด้วยวิธีขานชื่อ

องค์ประชุมปริ่มน้ำ ไม่ล่ม! ด้วยการกดบัตร ‘จุลพันธ์’ ลุกเสนอนับใหม่ด้วยวิธีขานชื่อทั้งรัฐสภา หวั่นซ้ำรอยกดบัตรแทนกัน ‘พรเพชร’ รับเป็นสิทธิ จึงให้ตั้ง คกก. เตรียมตรวจนับต่อ

วันนี้ (10 ส.ค. 65) เวลา 13:35 น. ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยมี ศาตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม

หลังจากให้สมาชิกอภิปรายในมาตรา 24/1 ครบและให้กรรมาธิการฯ ชี้แจงแล้ว ประธานฯ จึงกดออกให้สมาชิกรัฐสภาเข้าห้องประชุม เพื่อตรวจสอบองค์ประชุม

ระหว่างนั้น นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส. จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอให้กล้องโทรทัศน์รัฐสภา บันทึกภาพรอบห้องประชุมในมุมกว้าง เพื่อให้เห็นว่ามีใครอยู่ในห้องประชุมบ้างหากสมาชิกไม่อยู่แต่กลับมีชื่อจะได้ทราบ อย่างไรก็ตาม ประธานฯ กล่าวตอบโต้ว่า ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กล่าวขึ้นมา

“มันมีการกดบัตรแทนกัน อยากให้ประธานฯ บันทึกภาพในห้องประชุม และผมจะได้ตรวจสอบรายชื่อด้วย ขอให้ประธานฯ จริงใจด้วย” นายพิเชษฐ์ ลุกขึ้นกล่าวยืนยันเจตนาอีกครั้ง โดยที่มีเสียงสอดแทรกจากไมโครโฟนอื่นว่า “โกหกคำโต”

ต่อมา นายคารม พลพรกลาง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ลุกขึ้นประท้วงประธานฯ และนายพิเชษฐ์ ว่า “มีสิทธิอะไรมาพูดแบบนี้ ต้องถอนออกไป ผมฟังมาหลายครั้ง ถ้าพูดครั้งเดียวผมจะไม่ลุก ผมรู้จักคุณพิเชษฐ์ดี อย่ามาหาเสียงแถวนี้”

นายพิเชษฐ์ จึงลุกขึ้นประท้วงประธานฯ ว่า “ไม่ได้พูดพร่ำเพรื่อ คนพูดที่เอ่ยชื่อผมน่ะมีเกียรติพอไหม อยู่พรรคไหน” ทำให้ประธานฯ กล่าวห้ามปราม

ต่อมา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอ้างคำกล่าวของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่ทำหน้าที่ประธานฯ เมื่อเช้านี้บอกให้ปิดประชุมหากองค์ประชุมไม่ครบ นี่คือเสียงของสภาฯ ที่ไม่อยากให้เดินหน้าสู่การลงมติ ถ้าเราเดินหน้าสู่วาระ 3 คือ พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. ตกไป จนเกิดสุญญากาศ จนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งไม่ได้ ขอให้ประธานฯ ขานผลไปเลย ทำให้ประธานฯ ขอตั้งเวลาภายใน 1 นาที

นายออน กาจกระโทก สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสนอตามข้อบังคับข้อที่ 5 (3) ระหว่างที่ไม่ครบ ให้ตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ แต่เมื่อครบเวลา ในเวลา 13:46 น. ประธานฯ ขานจำนวนผู้มาประชุมคือ 366 + 1 คน เท่ากับครบองค์ประชุม

ทำให้นายจุลพันธ์ ลุกขึ้นเสนอว่าจากข้อเป็นห่วงเรื่องการกดบัตรแทนกัน จึงขอใช้เอกสิทธิ์เสนอขอนับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ อย่างไรก็ตาม นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ประท้วงเสนอญัตติในทางตรงกันข้ามว่าเป็นเจตนาล่มองค์ประชุมเกินไป

เวลา 13:52 น. ประธานฯ จึงชี้แจงว่า ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจนับคะแนน ประกอบด้วย ส.ส. 4 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรคการเมืองละ 1 คน และ ส.ว. 2 คน ท่ามกลางเสียงประท้วงและหารือจากในที่ประชุม

Related Posts

Send this to a friend