‘มงคลกิตติ์’ แซะ ถ้าจะ “เชลียร์” นายกฯ เกิน 8 ปี ก็แก้ รธน.ให้ ‘ประยุทธ์’ อยู่ยาวตลอดชีวิต
‘มงคลกิตติ์’ แซะ ถ้าจะ “เชลียร์” นายกฯ เกิน 8 ปี ก็แก้ รธน. ให้ ‘ประยุทธ์’ อยู่ยาวตลอดชีวิต ยกบันทึกประชุม ‘มีชัย’ ย้อนนับครบวาระได้ พร้อมงดออกเสียง-แนะให้ สสร. ร่างกฎหมายลูก เผยยังไม่ขอโทษ ‘สิระ’ เหตุหนังสือ คกก.จริยธรรมยังไม่ถึงบ้าน
วันนี้ (10 ส.ค. 65) เวลา 08:45 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงต่อสื่อมวลชนก่อนเข้าประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ …) พ.ศ. …
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ไม่ว่าจะใช้สูตรคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อด้วยการหารแบบใด ปกติผมก็ได้ประโยชน์จากการหาร 500 แต่ในกรณีที่องค์ประชุมครบ ผมจะงดออกเสียง ทั้งมาตราที่เหลือหรือวาระ 3 เพราะเดิมทีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นผลประโยชน์ไม่ว่าจะพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่ จะให้ดีควรเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) พิจารณาดีกว่า
ส่วนใครที่ไม่เข้าร่วมประชุมวันนี้ จะผิดจะถูกตามข้อบังคับจริยธรรมหรือไม่ นายมงคลกิตติ์ มองว่า ต้องถามฝ่ายกฎหมายและนักร้องเรียนเอา
ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายมงคลกิตต์ กล่าวว่า ได้ร่างหนังสือและปรึกษาแก้ไขหนังสือยื่นตีความศาลรัฐธรรมนูญผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร กับ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าจะช่วยกันลงชื่อในญัตติของพรรคเพื่อไทย ญัตติของพรรคปวงชนไทย ญัตติของพรรคเสรีรวมไทย และญัตติของพรรคไทยศรีวิไลย์
นอกจากนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังอ้างถึงบันทึกการประชุมของ นายมีชัย ฤชุพันธ์ ตีความนายกฯ 8 ปี โดยให้นับรวมที่ดำรงตำแหน่งก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญ นั่นหมายความว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ตีความย้อนหลังหมด เหมือนอย่างคดีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
“มีวิธีเดียวคือเที่ยงคืนวันที่ 23 ส.ค. 65 พลเอก ประยุทธ์ เซ็นอะไรไม่ได้ เพราะเซ็นไปก็จะผิดกฎหมาย รัฐมนตรีทั้งหมดก็จะพ้นหมด ปลัดกระทรวงก็จะรักษาการ พลเอก ประวิตร ก็จะรักษาการนายกรัฐมนตรี ต้องดำเนินการตามการสรรหานายกฯ ใหม่ วิธีการเป็นนายกฯ อีกครั้งคือ ส.ส.-ส.ว. รวมตัวกันเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อให้ พลเอก ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะเสียชีวิต แล้วก่อนเสียชีวิตจะให้ใครก็ระบุไปเลย ถ้าจะเชลียร์ก็เชลียร์ให้สุดเลย” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ยังให้ความเห็นถึงการเพิ่มค่าไฟจาก 3.79 บาทต่อหน่วย เป็น 4.72 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มมา 24.5% ด้วยกัน โดยนายมงคลกิตติ์ เสนอแนวทางว่า ให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นำกำไรของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เข้ารัฐส่วนหนึ่ง เพื่อให้ค่าไฟลดเหลือเพียง 3.72 บาทต่อหน่วย ไม่ให้กระทบค่าครองชีพของประชาชน
สำหรับกรณีคณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร มีมติว่านายมงคลกิตติ์ผิดจริยธรรมในกรณีโพสต์เฟซบุ๊ก ซึ่งคาดว่าเป็นกรณีโพสต์ถึง นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส. เขตหลักสี่ กทม. พรรคพลังประชารัฐ นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า เท่าที่อ่านนั้นผิดไม่ร้ายแรง แม้ทำหนังสือส่งไปที่บ้านผม แต่หนังสือยังไม่ถึง ดังนั้น รายละเอียดจะขอโทษอย่างไรต่อคุณสิระ เจนจาคะ เกี่ยวกับบันดาลโทษะ ก็ขอรอหนังสือก่อน จะพิจารณาดำเนินการต่อไป
