‘นันทนา’ คาดมี สว.อีกกว่าร้อยโดนแจ้งข้อหา วอน ลาออก-ชะลอลงมติเรื่องสำคัญ
วันนี้ (10 พ.ค.68) นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงคดีฮั้วเลือก สว.หลัง กกต.ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ออกหมายเรียกให้ 55 สว.มารับทราบข้อกล่าวหา ระหว่างวันที่ 19-21 พ.ค.68ว่า กระบวนการตรวจสอบที่มาของ สว.ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 10 เดือน ขณะนี้ได้เริ่มขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว โดยคาดว่ามี สว.จำนวนมากกว่า 100 คนที่อยู่ในข่ายจะได้รับแจ้งข้อกล่าวหา
ภาพลักษณ์ของ สว.ชุดนี้ตกต่ำอย่างมากในสายตาประชาชน และมอง สว.ด้วยความคลางแคลงใจในกระบวนการได้มา โดยสงสัยว่าอาจมีกระบวนการฮั้วกันมา ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกที่รวมกลุ่มกันมา และเมื่อเข้าสภาฯ มาก็มีการลงมติไปในทิศทางเดียวกัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง DSI ได้เข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและร่วมมือกับ กกต. จนนำมาสู่การเริ่มแจ้งข้อกล่าวหาแก่ สว.ที่เข้าข่ายมีปัญหาเรื่องการฮั้ว
แม้กฎหมายจะไม่ได้กำหนดให้ สว.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่มีการเรียกร้องโดยใช้หลักยึดทางจิตสำนึกและสามัญสำนึกให้ สว.ที่อยู่ในข่ายพิจารณาหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรืออย่างน้อยที่สุดให้ชะลอการลงมติในเรื่องสำคัญออกไปก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงมติให้ความเห็นชอบผู้ที่จะดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และการลงมติร่างพระราชบัญญัติสำคัญต่าง ๆ เนื่องจากขณะนี้ที่มาของ สว.ยังมีลักษณะสีเทา ๆ การเห็นชอบบุคคลไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ซึ่งจะทำหน้าที่ยาวนาน 7-9 ปี หรือการลงมติกฎหมายที่มีผลถาวร หากทำโดย สว.ที่มีที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจทำให้กระบวนการนั้นเสียเปล่า กลายเป็นโมฆะ หรือผู้ที่ได้รับความเห็นชอบจะถูกมองว่าได้ตำแหน่งจากผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติในการลงมติ
หาก สว.ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหายังคงดื้อดึงและไม่ชะลอการลงมติสำคัญออกไป อาจต้องใช้กระบวนการทางกฎหมายเข้ามากดดัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กกต. ป.ป.ช. และ DSI ต้องเร่งทำงานให้เร็วขึ้น เพื่อให้ผู้ที่เข้ามาโดยกระบวนการไม่ชอบด้วยกฎหมายหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากมีคำสั่งของ ป.ป.ช. ผู้ที่ถูกกล่าวหาจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
นางสาวนันทนา กล่าวว่าหากกระบวนการตรวจสอบล่าช้าออกไป เช่น 6 เดือน จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติอย่างมาก ภายใน 6 เดือนนี้อาจมีการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระสำคัญหลายแห่ง เช่น กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. หากบุคคลเหล่านี้ได้รับความเห็นชอบจาก สว.ที่มีที่มาไม่ชัดเจนและมีแนวโน้มไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศชาติ ประเทศอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เชื่อว่าประชาชนกำลังจับตาดูสถานการณ์นี้อยู่












