ทีมเชียงใหม่เรียกประชุมด่วน เคลียร์ปัญหาข้อมูลดาวเทียม และการดับไฟป่าในพื้นที่
ชี้ ข้อมูลดาวเทียมไม่เรียลไทม์ แต่เจ้าหน้าที่ทำงานในพื้นที่ตลอด ทั้งการลาดตระเวนเชิงรุก เฝ้าตามจุด รับสายด่วน ไม่ได้รอข้อมูลจากดาวเทียมเพียงอย่างเดียว
วันนี้ (10 ก.พ. 68) ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วนกรณีการใช้ข้อมูลดาวเทียมเพื่อป้องกัน และจัดการปัญหาไฟป่า รวมถึงจุดความร้อน GISTDA แจงข้อมูลจุดความร้อนเป็นข้อมูล Near Realtime แนะเลือกใช้ข้อมูลรายครั้ง และรายวันตามความเหมาะสม ยันข้อมูลแอปไฟป่าไวกว่า ด้านนายอำเภอดอยเต่า เผย นอกจากข้อมูลดาวเทียมแล้วยังลาดตระเวนเชิงรุก เฝ้าระวังตามจุด และแสตนด์บายในพื้นที่ตลอด แจงเหตุภาคประชาชนเข้าดับไฟป่าที่ อ.ดอยเต่าวานนี้ เจ้าหน้าที่ก็ปฏิบัติหน้าที่ และดับไฟในพื้นที่เดียวกันแต่คนละด้าน
นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อเป็นการทำงานเชิงรุก และแก้ปัญหา รวมถึงความเข้าใจผิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นจึงจัดการประชุมขึ้นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันในพื้นที่ โดยได้สอบถามไปยัง GISTDA เกี่ยวกับการนำส่งข้อมูลจุดความร้อน เพื่อการป้องกัน และดับไฟป่าได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากปัจจุบันข้อมูลยังไม่เป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์จึงสอบถามความเป็นไปได้ในการรายงานข้อมูล Real Time
ดร.สุรัสวดี ภูมิพานิช สำนักประยุกต์และบริหารภูมิสารสนเทศ GISTDA เปิดเผยว่า การใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อรายงานข้อมูลจุดความร้อนในปัจจุบัน GISTDA ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมทั้งหมด 5 ดวง (Terra และ Aqua เก็บข้อมูล MODIS และ Suomi NPP, NOAA-20 และ NOAA-21 เก็บข้อมูล VIIRS ซึ่งจะมีการส่งข้อมูลทั้งหมด 10 ครั้ง โดยข้อมูลทั้งหมด เป็นข้อมูลแบบ “Near Realtime” เร็วที่สุดอยู่ที่ประมาณ 30-40 นาที จากเวลาที่รับข้อมูล การรายงานผลออกมาเป็น 2 แบบ คือ การรายงานรายครั้ง 10 ครั้งต่อวัน เพื่อติดตามสถานการณ์ และการรายงานรายวันเพื่อเก็บสถิติ โดยรายงานการติดตามไฟป่าปี 2567-2568 เผยแพร่ทั้ง MODIS และ VIIRS และมีบริการข้อมูลจุดความร้อนจากดาวเทียมทั้งหมด ทางเว็บไซต์ ทั้งข้อมูลรายครั้ง รายวัน และรายสัปดาห์
นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคประชาชน สอบถามเรื่องการเข้าถึงข้อมูลว่าควรใช้ข้อมูลส่วนไหนเนื่องจากข้อมูลในเว็บไซต์ของ Gistda และ แอปไฟป่าไม่ตรงกัน ซึ่ง ดร.สุรัสวดีแจ้งว่าเป็นข้อมูลจากแหล่งเดียวกัน แต่แอปไฟป่าจะเร็วกว่า และมีการรายงานแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลงทะเบียนไว้ด้วย พร้อมกันนี้นายภัทรพงษ์ ได้สอบถามไปยังพื้นที่ อ.ดอยเต่าซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีรายงานว่าเกิดไฟป่า และมีอาสาภาคประชาชนเข้าไปดับไฟตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้
นายเพิ่มศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ นายอำเภอดอยเต่า ผู้บัญชาการสถานการณ์ในพื้นที่ รายงานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ มีเจ้าหน้าที่ประจำในพื้นที่ และดับไฟอยู่อีกด้านหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่ที่ประจำ ไม่ได้ใช้รายงานจากดาวเทียมเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการลาดตระเวนเชิงรุก และประจำจุดสังเกตทุกวัน ทั้งวัน แต่ด้วยตัวพื้นที่อาจจะทำให้มองไม่เห็นกันกับกลุ่มภาคประชาชนเข้ามาดับไฟในพื้นที่เอง พร้อมยืนยันว่า ในพื้นที่มีเวรยามช่วยกันเฝ้าระวังดูแลมาตลอด และยังคงทำหน้าที่อยู่
ด้านนายสมนึก ท้าวพา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ผอ.ศูนย์ควบคุมพื้นที่อนุรักษ์ จ.เชียงใหม่ รายงานว่า ไม่เคยรอ hotspot อย่างเดียวเพื่อดำเนินการ โดยจะใช้การลาดตระเวน จุดเฝ้าระวัง ข้อมูลดาวเทียม สายด่วน และเครือข่ายอาสาไฟป่า โดยมีเจ้าหน้าที่ทำงานตลอดเวลาเพื่อเข้าจัดการสถานการณ์ให้เร็วที่สุด เต็มกำลังความสามารถ พร้อมระบุว่าบางครั้งมีการถ่ายภาพว่าไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะกำลังเดินทาง หรือกำลังไป โดยทั้งหมดทำงานประจำในพื้นที่ด้วยความยากลำบากตลอดเวลาเพื่อปกป้องพื้นที่ให้ได้ดีที่สุด
หัวหน้า ปภ.เชียงใหม่ กล่าวในตอนท้ายว่า ขอความร่วมมืออาสาสมัคร และประชาชนที่ต้องการเข้าไปยังพื้นที่สาธารณภัย เพื่อความเป็นเอกภาพ และมีประสิทธิภาพในการทำงาน ขอให้ไปเช็คอินกับผู้ควบคุมสถานการณ์ประจำพื้นที่ (นายอำเภอ) ตามที่ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกำหนด และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันเพื่อป้องกัน และจัดการปัญหาไฟป่าและหมอกควัน
ด้านนายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ฝากทิ้งท้ายว่านอกจากการควบคุม และจัดการปัญหาไฟป่าแล้ว ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาในองค์รวม ทั้งเรื่องการขนส่ง การดูแลมาตรฐาน และตรวจควันดำ การล้างทำความสะอาดถนนที่เป็นฝุ่น การตรวจโรงงานอุตสาหกรรมไม่ให้ปล่อยมลพิษ และด้านสุขภาพอีกด้วย
