พรรคร่วมฝ่ายค้านนำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงจุดยืนภายหลังรัฐสภาเสียงข้างมาก มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อำนาจของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านเปิดเผยว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ ได้พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะไม่ให้มีการส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็แพ้เสียง พรรคพลังประชารัฐ และสมาชิกวุฒิสภา จึงอยากตั้งคำถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นกระบวนการดึงเวลา ยื้อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใช่หรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความจริงใจ โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่รับปากกับประชาชนไว้ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ารัฐบาล ขาดความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่เคยประกาศกลางที่ประชุมรัฐสภา ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะดำเนินการอย่างช้าที่สุดภายในเดือนมกราคมนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีผิดคำพูดที่เคยให้ไว้ ทำให้ฝ่ายค้านทั้งหมดรู้สึกผิดหวังและเห็นว่าสิ่งที่นายกรัฐมนตรี พูดเป็นเพียงแค่ลมปาก และหลังจากนี้ก็จะ รอฟังคำวินิจฉัยของศาลอีกครั้ง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่าผลการลงมติ เห็นได้ชัดว่าประเทศไทย รัฐธรรมนูญสามารถฉีกได้ด้วยการทำรัฐประหาร ง่ายกว่าการแก้ไข และผลโหวตครั้งนี้ก็มาจากผลพวงของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญ สามารถวินิจฉัยการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติได้ แม้จะไม่มีข้อขัดแย้ง และสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้ประเทศไทยถึงทางตัน