‘เท้ง’ บอกรัฐบาลทำได้ เสนอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ

‘เท้ง’ บอกรัฐบาลทำได้ เสนอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ‘ปชน.’ ขอรอดูถกแก้ รธน.วาระ 2-3 ก่อนตัดสินใจยื่นซักฟอก หวังทุกอย่างเดินหน้าตามกรอบ MOA

วันนี้ (9 ธ.ค.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ …พุทธศักราช …. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2 ในวันที่ 10-11 ธ.ค.68 ที่มีกระแสข่าวรัฐบาลอาจมีการเสนอญัตติใช้มาตรา 155 หรือ 165 ในการเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ซึ่งอาจทําให้ไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ตรงตาม MOA และเป็นผลให้ฝ่ายค้าน เช่น พรรคเพื่อไทย หากจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะล่มไปด้วย

นายณัฐพงษ์ ระบุว่า การยื่นญัตติในลักษณะนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถทําได้ ตนเองคงไปตอบแทนไม่ได้ว่าควรหรือไม่ควรยื่น แต่หากจะต้องมีการเปิดอภิปรายขึ้นมาไม่ว่าเวทีใดก็ตาม โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคประชาชนพร้อมเดินหน้าอย่างเต็มที่ สําหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กําลังจะมาถึงนี้ ขอให้ติดตามการทําหน้าที่ของพรรคประชาชน ซึ่งเราเองมุ่งหวังว่าจะสามารถเดินหน้าได้ตามกรอบ MOA

เมื่อถามว่าจะต้องมีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้งหรือไม่ ว่าในระหว่าง 15 วันหลังวาระ 2 จะไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือต้องพูดคุยกับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ ว่าไม่ต้องยื่นญัตติ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ตนเองและพรรคประชาชน เราได้มีการหารือทั้งหน้าบ้านหลังบ้านกับเพื่อนสมาชิกรัฐสภามาโดยตลอดไม่ว่าฝ่ายใด แต่ไม่มีการเจรจาตกลงใด ๆ ว่าตกลงแล้วจะหลบให้ยื่นให้ ไม่มีการพูดคุยใด ๆ อย่างนั้นทั้งสิ้น แต่เรามีการแสดงเหตุผลว่า วัตถุประสงค์ของพรรคประชาชนในการเซ็น MOA ให้เกิดขึ้นเพื่ออะไร เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งไปพร้อมกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นการที่แต่ละพรรคแต่ละฝ่ายจะตัดสินใจยื่นหรือไม่ยื่นญัตติ หรืออภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค พรรคประชาชน เรายืนยันว่าขอดูการพิจารณารัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ 3 ที่จะถึงนี้ก่อน ซึ่งจะเป็นประเด็นหนึ่งที่เราใช้เป็นส่วนสําคัญในการพิจารณา ว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อถามว่าจะใช้ตัวชี้วัดไหนเป็นหลัก จำนวนเสียง สว.หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างน้อยต้องมีการพิจารณาผ่านในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ส่วนเนื้อหาสาระที่ตอนนี้ผ่านชั้นกรรมาธิการแล้ว ถ้าสามารถดําเนินการผ่านไปได้อีก 2 วาระที่เหลือ ก็เชื่อว่าการดําเนินการตาม MOA ยังเดินหน้าต่อ