’เศรษฐา’ ไม่เห็นด้วย คณะกรรมการไตรภาคีขึ้นค่าแรง
อนุมัติปรับ 2-16 บาทน้อยมาก ไม่สอดคล้องค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน ยืนยันต้องทบทวนใหม่ รับไม่สบายใจมาก ชี้ อยากให้ค่าแรงพุ่งถึง 400 ตามนโยบายพรรค พท.
วันนี้ (9 ธ.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นค่าแรง มีมติอนุมัติปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 77 จังหวัด 2-16 บาท ว่า เป็นการปรับขึ้นที่น้อยมากเพราะค่าครองชีพก็สูงขึ้นทุกวัน ซึ่งรัฐบาลก็พยายามทำหลายวิธีแล้วเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทั้งลดค่าไฟ พักหนี้เกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
ขณะเดียวกันการเพิ่มรายได้ให้ครอบครัว ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมีประชาชนกว่า 10 ล้านคนต้องพึ่งค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งต่างจังหวัดขึ้นเพียง 7 ถึง 12 บาท ขณะที่และรัฐบาลพยาผลักดันให้ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมไฮเทคและประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเดินทางไปต่างประเทศและดึงให้บริษัทยักษ์ใหญ่มาลงทุน แต่ต้องขอวิงวอนอ้อนวอนผู้ประกอบการหรือนายจ้าง เพราะกลุ่มแรงงานเป็นผู้ที่ถูกผลกระทบเยอะที่สุด ซึ่งการขึ้นรายได้เป็นสิ่งที่ต้องทำไม่ใช่ว่ามากดค่าจ้างแล้วนายจ้างเองไม่ได้พัฒนา โดยรัฐบาลก็พยามช่วยเหลือเปิดตลาดใหม่ๆ ให้ ซึ่งนายจ้างเองปัจจุบันก็ได้ประโยชน์
นายกฯ ย้ำว่า เราจะยอมหรือที่ทำให้แรงงานไทย ค่าแรงต่ำติดดินอย่างนี้ อย่างประเทศใกล้เคียง ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ค่าแรงขั้นต่ำเกือบ 1,000 บาท แล้วจะยอมให้แรงงานไทยเป็นแรงงานขั้น 2 ขั้น 3 ของโลกหรือซึ่งทุกอย่างต้องทำควบคู่กัน หากทำอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้หรอก พร้อมยืนยันว่าจะต้องทบทวนมติดังกล่าวใหม่
ส่วนแนวทางการพูดคุยจะเป็นเช่นไรนั้น นายกฯ ระบุว่าเดี๋ยวต้องมาดู เพราะตนเพิ่งทราบข่าวเมื่อวานนี้ ก่อนย้อนถามสื่อมวลชนว่ามีเหตุมีผลหรือไม่ หากพูดถึงองค์รวมการทำธุรกิจ ไม่ใช่ว่าจะขึ้นค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการอย่างเดียว แต่เราต้องพูดถึงรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างโครงการขึ้นค่าไฟผู้ประกอบการก็ได้ประโยชน์ ถึงเวลาต้องคืนให้กับผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในภาคการผลิตหรือเปล่า อันนี้ก็มาคิดกัน
เมื่อถามย้ำว่าในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมาหลายปี แต่มีการปรับเพียง 2 บาท นายกฯ ตอบกลับว่าตนก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน อย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยพูดคุยถึงเรื่องนิคมอุตสาหกรรมและเร่งรัดการท่องเที่ยว อาทิ การเปิดด่านสะเดา ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการอยู่แล้ว ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงมีการปรับขึ้นค่าแรงเพียง 2 บาท ตนก็ขอวิงวอนไว้ด้วย
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ตนต้องขอความเป็นธรรมให้กับแรงงาน ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะคุยกับคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นค่าแรง เพราะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลนี้อยู่แล้ว
ส่วนควรมีการปรับขึ้นค่าแรงเท่าไหร่นั้น นายเศรษฐา มองว่า ต้องขึ้นสูงกว่านี้ และฟังเหตุฟังผล อย่างที่บอกสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นเพียง 2 บาท ไข่ลูกนึงยังไม่ได้เลย ส่วนที่ผู้ประกอบการอ้างว่าเศรษฐกิจตกต่ำนั้นรัฐบาลเองก็มีมาตรการช่วยเหลือ และมีการสร้างโครงข่ายทางธุรกิจ
ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะมีการย้ายฐานการผลิต นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่มีใครย้ายฐานจะผลิตจากการขึ้นค่าแรง 300 เป็น 400 บาท เพราะเรามีมาตรการสนับสนุนทางด้านภาษี เพราะเรามีหลายๆ อย่างที่ดี พร้อมระบุว่าหากไม่ช่วยกันมันจะไปลำบาก โดยหากเปิดทำการจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ และเมื่อสักครู่ได้พูดคุยกับ นายอนุทินมชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งทุกท่านมีความกังวลหมด
อย่างไรก็ตามนายเศรษฐา ระบุว่า ตนต้องขอดูรายละเอียดข้อกฎหมาย ว่าจะต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีหรือไม่ และหากต้องนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ตนไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน ตนเชื่อว่านโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ดูเรื่องความเหมาะสมเป็นนโยบายของรัฐบาล












