‘เฉลิมชัย’ ยันมีอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ 100% สั่งพักการประชุมคุย ‘อภิสิทธิ์’
ชี้ มีหลายเรื่องพูดไม่ได้และไม่เคยพูด ย้ำไม่คิดเป็นอะไหล่ให้ใคร
วันนี้ (9 ธ.ค.66) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในที่ประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3 ประจำปี 2566 หลังนายชวน หลีกภัย เสนอชื่อชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่าขอบคุณนายชวน ที่เสนอชื่อและให้การสนับสนุน นายชวนเคยเสนอชื่อตนเองเช่นนี้ครั้งเดียว เมื่อครั้งเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค ซึ่งวันนั้นตนเองขอถอนตัว
นายอภิสิทธิ์ ย้ำว่า หลายคนมีความเชื่อว่าตนเองอยู่ในฐานะที่จะมากอบกู้ฟื้นฟูพรรค ซึ่งไม่เคยคิดอยากจะเป็นจากความต้องการส่วนตัว เพราะทุกครั้งที่ต้องตัดสินใจจะมองถึงอนาคตส่วนรวมมากกว่า 4 ปีที่ผ่านมาตนเองถูกพาดพิงในทางสาธารณะและส่วนตัว หลังแสดงจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาล และไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองต้องระมัดระวังบทบาทมาตลอด ขณะนี้ภายใต้สถานการณ์หลายอย่าง และตนเองไม่มีตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรับ แต่ตนเองเป็นหนี้บุญคุณพรรคประชาธิปัตย์ สิ่งที่ทำให้ตนเองสะเทือนใจวันนี้ พรรคอยู่ในภาวะยิ่งกว่าวิกฤต
นายอภิสทธิ์ ไม่เข้าใจเหตุผลที่มีการเสนอให้ยกเว้นเกณฑ์การโหวต 70:30 วันนี้ไม่ได้เลือกใครแพ้หรือชนะ แต่พรรคเดินต่อไม่ได้ ถ้าไม่มีความเป็นเอกภาพอย่างแท้จริง ตนเองลงแพ้ก็มีปัญหา ชนะยิ่งมีปัญหา พร้อมกับถามนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะพักการประชุมแล้วคุยกับตนเองหรือไม่
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าไม่มีอะไรจะคุย ตนเองพูดไปแล้วว่าจะหยุด นี่คือเหตุผลที่ไม่เคยปฏิเสธความจริงสักครั้งว่าต้องรับผิดชอบสิ่งที่พูด ตนเองผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ปี 2518 พรรคประชาธิปัตย์คือสายเลือด วันนี้ยังยึดมั่นในอุดมการณ์พรรคเรื่องการซื่อสัตย์สุจริต อะไรที่ทำให้พรรคเดินต่อไปได้ ตนเองพร้อมคุยกับนายอภิสิทธิ์ได้ไม่มีปัญหา เราไม่เคยทะเลาะกันเลย
“ผมกับหัวหน้าอภิสิทธิ์สนิทกัน มองตาก็รู้ใจกัน วันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น แต่บางเรื่องที่ผมไม่ได้พูด บางเรื่องที่ไม่อยากจะพูดก็จะพูดให้ท่านฟังว่ามันคืออะไร ผมดีใจที่ได้พูดสิ่งที่อัดอั้นให้ท่านฟังด้วยความเคารพ ขอให้ท่านเชื่อมั่นว่าผมมีหลักการอุดมการณ์ประชาธิปัตย์เต็ม 100 ไม่ต้องกังวล ไม่เคยเป็นอะไหล่ให้ใคร”
จากนั้นได้มีการตกลงกัน และพักการประชุมเป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้นายเฉลิมชัย และนายอภิสิทธิ์ได้พูดคุยกัน ซึ่งมีการกอดและจับมือก่อนการพูดคุยด้วย