‘จุลพันธ์’ ยัน รัฐบาลให้ความสำคัญสิทธิมนุษยชน งบฯ แก้ปัญหาชายแดนใต้
‘จุลพันธ์’ ยัน รัฐบาลให้ความสำคัญสิทธิมนุษยชน เพิ่มงบ คกก.สิทธิฯ 23% เป็น 331 ลบ. ขณะที่งบฯ โครงการ IMT-GT แก้ปัญหา 3 จว.ชายแดนใต้ สอดแทรกในหน่วยงานระดับปฏิบัติการแล้ว
วันนี้ (9 ก.ย. 67) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 10 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ลงมติเห็นชอบแล้ว นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวชี้แจงถึง การจัดสรรงบประมาณในด้านสิทธิมนุษยชน ว่า งบประมาณในส่วนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนปรับขึ้น 23% เป็น 331 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นตัวชี้ให้เห็นว่า รัฐบาลเราให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนอย่างยิ่ง และงบประมาณในส่วนที่มีการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือที่ใดก็ตาม หากมีกระบวนการที่มันไม่ถูกไม่ควร หรือผิดครรลองต้องเป็นสิ่งที่เราต้องหารือกัน
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงงานด้านข่าวกรอง ว่า มีการแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบที่ค่อนข้างชัด ซึ่งมีอยู่ 6 หน่วยงาน คือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองทัพบก กองทัพไทย กรมการปกครอง (กระทรวงมหาดไทย) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีการจัดสรรงบประมาณ และแบ่งลงไป คือ พื้นที่นอกประเทศ (เป้าหมายระดับยุทธศาสตร์) หน่วยดำเนินการคือ กองทัพบก และกองทัพไทย, พื้นที่ในประเทศ (เป้าหมายระดับยุทธการ) หน่วยดำเนินการคือ กองทัพบก กองทัพไทย กรมการปกครอง ดีเอสไอ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์, พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (เป้าหมายระดับยุทธวิธี) ส่วนดำเนินการหลักคือ กอ.รมน. ดีเอสไอ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
นายจุลพันธ์ กล่าวย้ำว่า การแบ่งสรรงบประมาณไม่มีความซ้ำซ้อน แต่เป็นการทำงานอย่างสอดประสาน และบูรณาการ เพื่อการแก้ไขปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนประเด็นเรื่องโครงการความร่วมมือ IMT-GT 3 ประเทศคือ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย ในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น งบประมาณที่จัดสรรไปนั้น ดำเนินการอยู่ในส่วนที่แทรกอยู่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) กระทรวงการคลัง และหน่วยปฏิบัติงาน เช่นกระทรวงพาณิชย์ หรือกระทรวงต่าง ๆ ซึ่งก็จะมีงบประมาณเหล่านี้สอดแทรกอยู่
นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า เป็นกรอบความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ และเน้นในการพัฒนาเรื่องของเศรษฐกิจ และเป็นประโยชน์กับจังหวัดที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งอยู่ร่วมกับโครงข่ายหลักของ IMT-GT ซึ่งเป็นประโยชน์สูงที่สุด