POLITICS

‘ภูมิธรรม’ ไล่ ‘เรืองไกร’ ทบทวนปมร้องสอบคุณสมบัติ อย่ารื้อฟื้นความขัดแย้งในอดีต

‘ภูมิธรรม’ ไล่ ‘เรืองไกร’ ไปทบทวนปมร้องสอบคุณสมบัติ ขออย่าใช้ประเด็นการเมืองรื้อฟื้นความขัดแย้งในอดีต เพราะเรื่องจบไปแล้ว เตือนม็อบต้านทักษิณเห็นต่างได้ แต่อย่าทำลายความเชื่อมั่นประเทศ

วันนี้ (9 ก.ย. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องประธาน กกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเสนอชื่อนายภูมิธรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่

นายภูมิธรรม กล่าวว่าก่อนจะร้องตนเอง นายเรืองไกร ต้องทำความเข้าใจกับกระบวนการทั้งหมด ที่บอกว่าตนเองฝักใฝ่ ตนเองไม่เคยรู้จักเรื่องนี้มาก่อน ตนเองเป็นนักศึกษา ซึ่งเป็นเหยื่อของเหตุการณ์เมื่อปี 2519 เพื่อนพี่น้องหลายคนถูกฆ่าตาย มีการไล่จับกันมากมาย ทำให้นักศึกษาจำนวนมากจึงเข้าป่า ไม่ใช่ตนเองฝักใฝ่คนเดียว ไปโดยไม่รู้รายละเอียด แต่ตนเองมีความตั้งใจรักชาติ อยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้น อยากเห็นประชาธิปไตย ขณะนั้นเป็นความขัดแย้งแตกแยกใหญ่มากในสังคม ดีที่ฝ่ายผู้บัญชาการทหารระดับสูง ทั้งพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ หรือพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ได้เปิดให้มีนโยบาย 66 /2523 เปิดทางสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้น ลดความขัดแย้งที่มีอยู่ พยายามเดินไปข้างหน้าต่อ จึงได้ออกมาและมาทำงานกัน

ทุกคนที่ออกมาได้พิสูจน์ตนเอง ตนเองอยู่กับระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยที่เปิดเผย ตลอดระยะเวลาที่ออกมาไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรกที่ตนเองเป็นรัฐมนตรี ตนเองเป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี 2548 สมัยรัฐบาลนี้ก็เข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ และไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นรองนายกฯ ที่ดูแลความมั่นคง จึงไม่น่าจะมีเหตุให้นายเรืองไกรต้องร้อง

นายภูมิธรรม ระบุว่าไม่ทราบว่านายเรืองไกรมีวัตถุประสงค์อะไร จึงอยากให้นายเรืองไกรกลับไปดู เพราะเรื่องนี้สงบจบไปแล้ว ทุกอย่างมันดีสำหรับประเทศไทย อย่าใช้ประเด็นนี้ที่เป็นประเด็นทางการเมืองมารื้อฟื้นความขัดแย้งในสังคมในอดีต เพราะไม่เป็นผลดีต่อใคร ส่วนจะดำเนินคดีอย่างไรก็พร้อมรับทั้งหมด เพราะชื่อในความบริสุทธิ์ใจ และเชื่อว่าสาธารณชนจะได้เห็นความเป็นจริง

ส่วนกรณีที่คนเห็นต่างเตรียมเคลื่อนไหวในวันที่ 17 ก.ย.นี้ นายภูมิธรรม ไม่กังวลเพราะอยู่ในระบอบประชาธิปไตย มีความเห็นต่างได้ รัฐบาลคงหาทางในการสื่อสาร จึงอยากให้ประเด็นต่าง ๆ ที่ทำ ถ้าเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำอะไรขัดขวางกับประชาธิปไตย หรือรัฐบาลสร้างความขัดแย้ง ไม่ดูแลประชาชนค่อยมาแสดงออก ขณะนี้เศรษฐกิจประเทศกำลังเดิน ทุกคนในโลกกำลังให้ความเชื่อมั่นประเทศไทย อย่าใช้ประเด็นทางการเมืองมาจุด ทำให้เกิดความขัดแย้งในประเทศ และทำให้สูญเสียความเชื่อมั่น มันไม่เป็นผลดี

Related Posts

Send this to a friend