POLITICS

‘ดร.โภคิน’ ชี้ การแก้ไข รธน.วาระ 3 เอื้อประโยชน์พรรคการเมืองใหญ่ แนะทำประชามติ แก้ รธน.ฉบับประชาชน

ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าการลงมติวาระ 3 ในวันที่ 10 กันยายนนี้ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 จากบัตรใบเดียว เป็นสองใบ และเพิ่มจํานวน ส.ส. เขต จาก 350 คน เป็น 400 คน โดยลด ส.ส. บัญชีรายชื่อจาก 150 คน เป็น 100 คน มีความแตกต่างจากรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ได้ว่าพรรคการเมืองใดได้เสียงไม่เกิน 5 % จะไม่ได้รับการคำนวณที่นั่งสำหรับส.ส.ปาตี้ลิสต์ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้กำหนดขั้นต่ำไว้ โดยดูเหมือนเพื่อเป็นการเอื้อพรรคขนาดเล็ก แต่ในความเป็นจริง พรรคที่จะได้ส.ส.ปาตี้ลิสต์ ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 4 แสนเสียง หากมีผู้เลือกตั้ง 40 ล้านคน ที่เป็นบัตรดี ดังนั้นพรรคที่เคยได้คะแนน 5 แสนเสียง เดิมได้ส.ส. 7 คน จะเหลือ ส.ส.เพียง 1 คนเท่านั้น

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ นอกจากไม่ตอบโจทย์เรื่องคะแนนเสียงที่ต้องไม่ตกน้ำที่เป็นข้ออ้างสำคัญของรัฐธรรมนูญ 2560แล้ว เป็นการเอื้อประโยชน์ให้พรรคใหญ่ ที่มีเงิน อํานาจ และอิทธิพล สร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้ง โดยกลไกการสืบทอดอำนาจอำนาจ และการด้อยค่าระบอบประชาธิปไตย ยังเหมือนเดิมทุกประการ”

ดร.โภคิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางออกของประเทศ คือต้องทําลายระบอบอํานาจนิยมด้วยการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน ผ่านการทำประชามติรับฟังเสียงประชาชน เพื่อปลดล็อกประเทศในการยุติทุกปัญหาของสังคม และปลดปล่อยประชาชนคนทำมาหากินจากพันธนาการของรัฐราชการ ทั้งต้องทำให้พวกเขาเข้มแข็ง มีอำนาจต่อรอง และมีเสียงที่ต้องรับฟัง

“วันนี้ การตื่นรู้ และความเบื่อหน่ายของประชาชนกับความคิดแบบอำนาจนิยม และระบบรัฐราชการ ที่ไม่ฟังเสียง และไม่เห็นหัวประชาชน ทำให้สังคมตกผลึกร่วมกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความสำคัญเร่งด่วนกว่าปัญหาอื่นใด เพราะรัฐธรรมนูญ เป็นตัวกำหนดผู้บริหารประเทศในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนทั้งปวงโดยเฉพาะเศรษฐกิจ และสังคม ไม่ใช่เป็นใครก็ได้ ที่แย่งชิงอำนาจมา โดยไม่เห็นหัวประชาชนอีกต่อไป”

Related Posts

Send this to a friend