พปชร. ซัด รัฐบาลไร้น้ำหนักบนเวทีโลก หลังสหรัฐตั้งภาษี 36% ทั้งที่เพื่อนบ้านได้ผ่อนปรน ส่อเสียหายหลายแสนล้านบาท
วันนี้ (9 ก.ค. 68) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คงอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยไว้ที่ 36% ว่าแสดงถึงความล้มเหลวของรัฐบาลในการปกป้องผลประโยชน์ชาติ เป็นภาวะไร้ผู้นำทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ขนาดกัมพูชา ลาว เมียนมายังสามารถเจรจาให้สหรัฐลดภาษีลงได้ แต่ไทยกลับถูกแช่แข็งไว้โดยไม่มีการผ่อนปรนแม้แต่นิดเดียว รัฐบาลนี้ปล่อยให้ทีมไทยแลนด์ไร้น้ำหนักบนเวทีโลก ไม่มีผู้นำที่กล้าออกมาเผชิญหน้า รอแต่เวลาให้สถานการณ์พังยับ
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า การคงอัตราภาษีระดับนี้จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป อิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ ซึ่งเป็นหัวใจเศรษฐกิจไทย เกิดความเสียหายหลายแสนล้านบาท ตามการประเมินของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีภาษีต่ำกว่า
นอกจากนี้ รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาด้วยวิธีลดดอกเบี้ยนำเข้าสินค้าหลายประเภทให้เป็นศูนย์โดยไม่คำนึงถึงการทำลายศักยภาพการแข่งขันและการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมครัวเรือน อุตสาหกรรมขนาดกลาง ขนาดย่อม ที่กำลังเจริญเติบโต
“รัฐบาลนี้ไร้วิสัยทัศน์ ลอยตัวหนีปัญหา เศรษฐกิจใกล้ล่ม ประชาชนกำลังทุกข์หนัก นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่แสดงภาวะผู้นำใด ๆ ทั้งที่ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตความเชื่อมั่นจากต่างชาติอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” โฆษกพรรคฯ กล่าว
ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐขอเสนอให้จัดตั้ง “คณะเจรจาเศรษฐกิจฉุกเฉิน” เปิดทางให้นักการทูตระดับมืออาชีพ นักเศรษฐศาสตร์ และภาคเอกชน เข้ามามีบทบาทโดยตรง เพื่อฟื้นความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีการค้าระหว่างประเทศ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป รวมทั้งเสนอให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านที่มีพลัง มีฝีมือ มีความน่าเชื่อถือในสายตาของสหรัฐร่วมเจรจา












