สภาฯ มีมติ 253 เสียงถอนร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ‘เท้ง’ ลั่น ไม่ขอร่วมสังฆกรรม
วันนี้ (9 ก.ค.68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) พิจารณาวาระร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวสรุปว่าตนเองคาดหวังอยากเห็นตัวแทนคณะรัฐมนตรีลุกขึ้นมาให้เหตุผลในการสนับสนุนญัตติการถอดถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกจากการพิจารณาของสภาฯ แต่พรรคฝ่ายค้านอยากฟังเหตุผลในการถอนร่างอย่างจริงใจ ไม่ใช่ต้องการถอนเพื่อรอเสียบในวันข้างหน้าเมื่อรัฐบาลสามารถรวมเสียงได้ แต่เรากลับไม่เห็นการลุกขึ้นมาให้เหตุผลสนับสนุนญัตติในการขอถอนร่างจากฝั่งรัฐบาล

ดังนั้นจากการฟังอภิปรายและเห็นคะแนนโหวต ขอให้ปิดการอภิปรายมีแค่ 251 เสียง หากลบเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลที่แสดงตัวชัดเจนว่าไม่สามารถโหวตรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ อาจจะโหวตไม่เห็นด้วยแล้วเทิร์นเสียงกลับมาเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งทุกคนได้ข้อสรุปตรงกันหนึ่งข้อคือ รัฐบาลต้องการถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออก เพราะถ้าเข้าสู่วาระจะถูกคว่ำในสภาฯ แน่นอน
สิ่งที่ตนเองอยากยืนยันให้ประชาชนทั้งประเทศคือ รัฐบาลขาดความจริงใจ ทำให้พวกเราไม่สามารถร่วมสังฆกรรมกับญัตติในการขอถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลุกชี้แจงว่าญัตติที่เรากำลังคุยกันอยู่เป็นเรื่องการถอนร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์หรือไม่ ซึ่งจากการฟังอภิปรายส่วนมากจะเป็นการลงไปในเนื้อหาตัวร่างกฎหมายเป็นหลัก ว่าสาเหตุที่ยังไม่มีความพร้อมยังมีข้อบกพร่องหรือไม่ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของวาระหนึ่ง หากกฎหมายนี้เข้าสู่การพิจารณา เมื่อถึงเวลาที่จำเป็นก็จะมานั่งตอบในเรื่องของรายละเอียด
ตนเองยืนยันเช่นเดิมว่าอำนาจของสภาฯ เป็นอำนาจของพวกเราทุกคน ในกระบวนการที่จะแก้ไขกฎหมาย ตามขั้นตอนต่าง ๆ แต่เมื่อฟังแล้วก็มีความย้อนแย้งอยู่เล็กน้อย ที่บอกว่าไม่เห็นชอบต่อตัวกฎหมายแต่อยากให้มีการพิจารณาเลย อีกสาเหตุก็บอกว่าจะคว่ำเลย ก็เห็นอยู่ว่าเสียงข้างมากมีเสียงจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ตนเองกลับมองว่าการที่รัฐบาลจะเลื่อน เพื่อที่จะลดปัญหาความขัดแย้งในสังคม เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้คณะรัฐมนตรีใหม่ได้กลับมาพิจารณาอีกครั้ง อาจเป็นเหตุผลที่จะช่วยให้ประเทศกลับมาเดินหน้าง่ายขึ้นด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุและผลของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่าง เราก็รับฟังได้ แต่ยังยืนยันเช่นเดิมว่าเหตุผลที่ยกอ้างในการคว่ำร่างกฎหมาย ต่อให้กฎหมายฉบับนี้ลงมติแล้วแพ้ ก็ไม่ได้หมายความว่ากฎหมายนี้จะออกไปจากสารบบ ทุกคนก็รู้ดีว่ากฎหมายทุกฉบับหากตกไป ห้ามยื่นกลับมาในสมัยประชุมเดียวกัน หมายความว่าหากสมัยประชุมหน้าหากรัฐบาลชุดถัดไปหรือสมาชิกคนใดร่วมรายชื่อได้ครบจำนวนก็จะสามารถยื่นกฎหมายเข้าสู่สภาฯ ได้เช่นเดิม
ด้วยความจริงใจ รัฐบาลมองว่ากระบวนการถอนร่างกฎหมายจะเป็นประโยชน์กับประเทศและสังคมมากกว่า ส่วนที่ถามในสิ่งที่ตนเองตอบไม่ได้ว่าจะนำร่างกลับมาหรือไม่ ตนเองยืนยันในฐานะหนึ่งในคณะรัฐมนตรีไม่ได้มีอำนาจ เพราะ ครม. มอบอำนาจให้มาสู่สภาฯ แห่งนี้ในเรื่องของการถอนร่างกฎหมายเท่านั้น วันนี้เราก็ใช้กลไกของสภาฯ เป็นตัวตัดสิน หากลงมติให้ถอนก็จะกลับไปยัง ครม. และหากจะให้เดินหน้าก็ลงมติว่ากันในเรื่องของตัวกฎหมายตามวาระหนึ่งต่อไป รัฐบาลและสมาชิกในฝั่งรัฐบาลมีความพร้อมในทุกกรณี
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในญัตติที่ ครม. ขอถอนร่าง พ.r.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยจำนวนผู้ลงมติ 318 เสียง เห็นด้วย 253 เสียง ไม่เห็นด้วย 67 เสียง งดออกเสียงและไม่ลงคะแนนเสียง ไม่มี ที่ประชุมจึงมีมติยินยอมให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกจากระเบียบวาระ













