ศศินันท์ รับหนังสือกลุ่มญาติวีรชนพฤษภา 35 หวังสังคมคืนสู่สภาวะปกติ

วันนี้ (9 ก.ค. 68) นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน พร้อมด้วย สส.พรรคประชาชน รับหนังสือจากเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จำนวน 4 ฉบับ

นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเรามีปัญหาคดีที่สั่งสมกันมาหลาย 10 ปี ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ บัดนี้บ้านเมืองถึงเวลาที่พวกเราจะต้องแก้ไขปรองดองสามัคคีสมานฉันท์ จึงขอให้พรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านช่วยสนับสนุนให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะพิจารณาในวันนี้ผ่านพ้นไปได้ แม้จะต้องทำ 2-3 ขยักก็ต้องทำ

การจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม ต้องเข้าใจว่าอำนาจของกฎหมายฉบับนี้คืออะไร แต่สิ่งที่กำลังจะพิจารณา ตนเองขอเตือนในฐานะที่ประเทศไทยไม่มีใครรู้เท่าตนเอง การนิรโทษกรรมแม้จะใช้ชื่อกฎหมายว่าอะไรก็แล้ว แต่ต้องพิจารณาโดยสภาฯ และให้อำนาจในการออกกฎหมายได้ ส่วนการรวมมาตรา 112 อยู่ในกฎหมายฉบับนี้ ตนเองมองว่า หากยุ่งเกี่ยวกับพระราชอำนาจจะทำให้กฎหมายไม่มีวันออกมาได้ เนื่องจากกฎหมายขัดแย้งกันในตัว

“ทุกฝ่ายควรที่จะได้รับพิจารณา และได้รับอานิสงส์จากกฎหมายรนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะชื่ออะไรก็แล้วแต่ ขอให้เริ่มต้นใหม่เพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้า”

นางสาวศศินันท์ เปิดเผยว่าเราจะรับหนังสือ และหวังให้ทุกฝ่ายกลับคืนสู่สภาวะปกติ คืนความปกติให้กับทุกฝ่าย ร่างกฎหมายที่จะเข้าสู่สภาฯ วันนี้มี 4 ร่าง ส่วนร่างของพรรคภูมิใจไทยไม่ทราบว่าจะเข้าวันนี้ด้วยหรือไม่ แต่ทุกร่างจะมีความเหมือนกันคือ ต้องการให้คืนความสงบและเกิดความปกติสุขในสังคมไทย มีร่างของพรรคก้าวไกลและร่างของภาคประชาชนที่จะมีความแตกต่างในเชิงเนื้อหา ภาคประขาชนเขียนชัดเจนถึงมาตรา 112 ในมุมของพรรคประชาชนบอกชัดเจนว่า ร่างของเราเป็นร่างที่มีความประนีประนอมมากที่สุด ไม่ได้มีตรงไหนที่ระบุถึงมาตรา 112 แต่มีการตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยที่จะเป็นตัวโอบรับทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม และทุกมาตรา ปฏิเสธไม่ว่าความขัดแย้งทางการเมือง 20 ปีมีบริบทที่แตกต่างกันออกไป ไม่สามารถกำหนดมาตรากฎหมายชัดเจนว่า มาตราใดที่ควรจะได้รับการนิรโทษกรรม เนื่องจากในแต่ละบริบททางการเมืองมีการบังคับใช้กฎหมายที่แตกต่างกันมาก