POLITICS

ฝ่ายค้านเปิดยุทธการ ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ ยื่นซักฟอก 10 รมต. พปชร.-ปชป.-ภท. 15 มิ.ย.

ฝ่ายค้านเปิดยุทธการ ‘เด็ดหัว สอยนั่งร้าน’ ยื่นซักฟอก 10 รัฐมนตรี พปชร.-ปชป.-ภท. 15 มิ.ย. ‘ชลน่าน’ มั่นใจข้อหาทุจริตทำ รมต. หลุดเก้าอี้ได้ ‘สุทิน’ เตือน รมต. ให้สำรวจตัวเองรอไว้ ‘ชัยธวัช’ ยันโผมี 3 ป. เป็น ‘นั่งร้านพิเศษ’

วันนี้ (9 มิ.ย. 65) เวลา 12:50 น. ที่อาคารรัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้แก่ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ร่วมแถลงข่าวถึงการยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ในสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งนี้

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดน่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากการหารือ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้มีมติว่าจะทำการยื่นญัตติในวันพุธที่ 15 มิ.ย. 65 เวลา 10:00 น. โดยกำหนดยุทธการของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คือ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน”

นายสุทิน คลังแสง ส.ส. จังหวัดมหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วม (วิป) ฝ่ายค้าน ขยายความยุทธการว่า หัวมี 1 คือนายกรัฐมนตรี ส่วนนั่งร้านมาจาก 3 พรรคคือ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ พรรคละ 3 รัฐมนตรี รวมเป็น 10 คน

“ส่วนจะเป็นใครบ้างให้อดใจรอนิดนึง วันพุธนี้ก็ทราบแล้ว วันนี้ให้ ‘นั่งร้าน’ พยายามสำรวจตัวเองก่อน ไม่ให้เคลื่อนไหวมาก” นายสุทิน กล่าว พร้อมให้ความเชื่อมั่นว่าครั้งนี้จะมีระยะเวลาอภิปรายมากกว่า 4 วันจากครั้งที่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในบรรดารัฐมนตรีที่จะถูกซักฟอกนั้น มี 3 ป. หรือไม่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ตอบว่า โดนครบ ถือเป็นนั่งร้านพิเศษอีก 2 ท่าน

นพ.ชลน่าน ชี้แจงว่า จำนวนรัฐมนตรี 10 คนที่จะถูกอภิปรายนั้นเป็นที่ยุติแล้วเว้นแต่จะมีข้อมูลที่น่าสนใจใหม่เพิ่มเติม ส่วนประเด็นข้อกล่าวหารัฐมนตรีนั้นเป็นไปตามกรอบยุทธศาสตร์ ได้แก่

  1. ความผิดพลาดบกพร่องล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน
  2. จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรม
  3. ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์
  4. ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา หรือเรื่องที่สมาชิกอภิปรายทักท้วงไว้
  5. ละเมิดสิทธิมนุษยชน
  6. ทำลายระบอบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา

“เหล่านี้เป็นข้อกล่าวหาตัวรัฐมนตรีที่เราใช้ในการอภิปราย แต่ละท่านแต่ละคนแตกต่างกันไป มั่นใจในข้อมูลจาก 6 พรรคร่วมเราและพรรคไทยศรีวิไลย์ที่จะมาร่วมอภิปราย ก็เขียนไว้ในตัวญัตติที่จะยื่นต่อไป” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงความมั่นใจในการอภิปรายให้รัฐมนตรีหลุดพ้นจากตำแหน่งว่า ค่อนข้างมั่นใจโดยเฉพาะข้อกล่าวหาทุจริตทำผิดต่อกฎหมาย จริงอยู่ท่านอาจมองว่ามีใบเสร็จไหม แต่ใบเสร็จทางการเมืองไม่ใช่ใบเสร็จรับเงิน ใบเสร็จทางการเมืองจะทำให้เห็นว่ารัฐมนตรีทุจริตทำผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรีก็จะเกี่ยวข้องกับการทำผิดโดยตรงไปด้วย

สำหรับเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อาจแปรปรวนบ้างในช่วงลงมติที่ผ่านมา เราไม่เคยนับในฝ่ายค้านของเราอยู่แล้ว และเรามั่นใจในฝ่ายค้านที่เรามีเหนียวแน่น

ส่วนเสียงของพรรคร่วมที่ไม่ใช่ฝ่ายค้าน มีการจีบมาแล้วหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จริงที่ต้องอาศัยพลังพรรคหรือสมาชิกที่เห็นพ้องกับเราว่าที่รัฐบาลกระทำเป็นสิ่งที่เขายอมรับไม่ได้ จะคิดว่าอยู่ในมือก็ไม่ถูกนัก เพราะเป็นเอกสิทธิของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และทางการเมืองเขาไม่เรียกว่าการจีบ

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงกรณีวุฒิสภายื่นญัตติขออภิปรายรัฐบาลตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ว่าจะเป็นการฟอกขาวรัฐบาลก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า สิ่งที่จะตอบได้หรือไม่ได้ ต้องดูเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ คือวุฒิสภายื่นได้ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมาแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน

“หากเป็นไปตามบทบัญญัติก็แปลว่าเขาก็ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าอยู่นอกเหนือจากนี้ก็อาจเข้าข่ายการฟอกขาวได้ เราต้องเฝ้าดูเขา ดูเนื้อหาสาระข้อเสนอของตัวญัตติ ว่าเป็นการแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาได้ พร้อมทั้งดูพฤติกรรมขณะพิจารณาอภิปราย เชื่อว่าประชาชนเฝ้าดูและวุฒิสภาเองก็คงไม่เห็นด้วยให้เป็นเวทีฟอกขาว” นพ.ชลน่าน กล่าว

Related Posts

Send this to a friend