POLITICS

‘กลุ่มไทยไม่ทน’ ยื่นหนังสือพรรคร่วมฝ่ายค้าน ‘สุทิน’ เผยวิธีนี้ใช้ได้ผลกับผู้นำที่มีจริยธรรมสูง

วันนี้ (9 มิ.ย. 64) ที่หน้าอาคารรัฐสภาเกียกกาย คณะไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดย นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์, นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายวีระ สมความคิด เดินมายื่นหนังสือต่อ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยใน ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน เรื่อง ขอให้ฝ่ายค้านเสียสละลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งของแถลงระบุว่า คณะไทยไม่ทนฯ ไม่ต้องการให้ระบอบเผด็จการกบฏอยู่สืบทอดอำนาจอีกต่อไป เนื่องจากความล้มเหลวทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม มีพฤติกรรมอวดเก่ง ยโสโอหัง พูดกลับกลอก ปลิ้นปล้อน ตระบัดสัตย์ จนลากประเทศไปสู่ความวิบัติล่มจม หากปล่อยให้บริหารต่อไปความพินาศจะถมทับทวียิ่งขึ้น พวกเราจึงมายื่นหนังสือต่อพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อขอให้ลาออกมาร่วมต่อสู้กับประชาชน จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือของระบอบเผด็จการกบฏประยุทธ์ และตลอด 7 ปี ตั้งแต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 57 กลุ่มเผด็จการกบฏใช้ปืนบังคับข่มขู่ควบคุมประชาชนให้อยู่ในความสงบ โดยใช้อำนาจเผด็จการตามมาตรา 44 และประกาศ คสช. อีกทั้งเผด็จการพวกนี้ได้สถาปนาตัวเองปกครองประเทศ โดยในช่วง 5 ปีแรก ใช้อำนาจเผด็จการทหารปกครองประเทศ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้เป็นเครื่องมือในการออกกฎหมายเพื่อรับใช้ตัวเอง

นอกจากนี้ยังแต่งตั้งคนของตัวเองไปคุมองค์กรอิสระต่างๆ เพื่อคอยรับใช้และปกป้องกลุ่มเผด็จการกบฏ และยังใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นงานฝ่ายตรงข้าม หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 24 มี.ค. 62 รัฐบาลเผด็จการกบฏประยุทธ์ ขยายอำนาจเบ็ดเสร็จและเลวร้ายไปอีก แม้พลเอกประยุทธ์ พยายามโฆษณาชวนเชื่อว่า เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พร้อมเขียนภาพประชาธิปไตยมากลบภาพเผด็จการอำนาจนิยม แต่ไม่สามารถปิดบังอำพรางความต้องการที่จะสืบทอดอำนาจได้ โดยระบอบกบฏประยุทธ์ มีวุฒิสมาชิกแต่งตั้ง 250 คนคอยรับใช้ช่วยยกมือให้ประยุทธ์กลับมาสืบทอดอำนาจ และมีพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการให้การสนับสนุนเพื่อแลกกับผลประโยชน์ในตำแหน่งรัฐมนตรี ที่เลวร้ายมีองค์กรอิสระมาทำหน้าที่รับใช้กบฏอีกด้วย ดังนั้น ระบอบกบฏประยุทธ์จึงเป็นเผด็จการที่เลวร้ายที่สุด เลวกว่าเผด็จการที่เคยมีมาในประเทศไทย

เมื่อเผด็จการระบอบประยุทธ์ ปกครองมานานถึง 7 ปี ได้สร้างปัญหาให้ประเทศอย่างหนักหนาสาหัส หากประชาชนยังอดทนต่อไป ไม่รวมพลังลุกขึ้นมาต่อต้าน กลุ่มเผด็จการกบฏประยุทธ์ นำประเทศไปสู่ความวิบัติฉิบหาย โดยมีรูปธรรมสะท้อนถึงความเสียหายที่เผด็จการชั่วบริหารประเทศมา 7 ปี ได้กู้หนี้ชดเชยงบประมาณขาดดุลทุกปี ตัวเลข ณ มีนาคม 2564 ไทยมียอดหนี้รวม 8.4 ล้านล้านบาท ทำให้พอกพูนหนี้สาธารณะสูง 54.28% ของจีดีพี ถ้านำกู้เงินฉุกเฉินในวงเงิน 1 ล้านล้านบาทในปีงบประมาณ 2563 และ อีก 5 แสนล้านบาทในปีงบประมาณ 2564 มารวมเข้า จะทำให้สัดส่วนของหนี้สาธารณะท่วมสูงทะลุเพดาน 60% ของจีดีพี ณ ตรงจุดนี้คือ ความวิบัติฉิบหายทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

คณะไทยไม่ทนสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ขอให้พรรคฝ่ายค้านมาร่วมผนึกกำลังรีเซ็ตประเทศ โดยมาร่วมกับภาคประชาชนขับไล่เผด็จการระบอบประยุทธ์ให้ออกไป เพื่อมาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ เชื่อมั่นว่าพรรคฝ่ายค้านจะเห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

ด้านนายสุทิน กล่าวว่า ตนเองเห็นถึงความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ต้องขอขอบคุณในเบื้องต้น เรามีจุดร่วมไม่ต่างกันคือ อยากให้รัฐบาลบริหารบ้านเมืองโดยคำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน และรักษาระบอบรัฐสภาไว้ โดยการทำงาน 2 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่ายังไม่สามารถหยุดยั้งความคิดที่รัฐบาลดำเนินมาได้ นั่นคือวิธีทางที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย และไม่สามารถถ่วงดุลตรวจสอบได้ อุปสรรคที่พบเห็นคือฝ่ายค้านที่ทำงานได้ดีต้องอยู่ภายใต้องค์กรอิสระในระบบยุติธรรมที่เข้มแข็ง ต่อมาคือระบบรัฐสภาใช้เสียงข้างมากโดยไม่คำนึงเสียงประชาชน วันนี้จึงเห็นในเจตนาคณะที่มายื่นหนังสือ เพื่อหยุดยั้งระบอบนี้สู่วิถีที่ประชาชนปรารถนา ส่วนการให้ฝ่ายค้านลาออกเป็นวิธีที่มีเหตุผล เมื่อได้รับข้อเสนอจะนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป ซึ่งวิธีนี้จะได้ผลในสถานที่ที่ผู้นำมีจริยธรรมด้านการเมืองสูง แต่กรณีพลเอกประยุทธ์ตนเองไม่แน่ใจ ต้องมีการประชุมและทบทวนกันก่อน

Related Posts

Send this to a friend