POLITICS

’อนุทิน‘ เชื่อ หากนายกฯ ดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ไม่กระทบ ’ภูมิใจไทย‘

’อนุทิน‘ เชื่อ หากนายกฯ ดึงกัญชา กลับไปเป็นยาเสพติด ไม่กระทบกับ ’ภูมิใจไทย‘ เพราะได้ทำตามสัญญาแล้ว แต่ถูกหักหลังเรื่องกฎหมายในสภาฯ คนที่ได้รับโทษคือประชาชน ขอรอดูข้อมูลจาก สธ. พิจารณาก่อน

วันนี้ (9 พ.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาดึงกัญชากลับไปเป็นสารยาเสพติด ระบุว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ต้องไปหาข้อมูลมาเพิ่ม ที่ผ่านมาการประกาศให้กัญชาพ้นจากการเป็นสารเสพติด ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการป้องกันปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ และก่อนที่จะมาถึงคณะกรรมการชุดดังกล่าว ก็มีคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ข้อมูลในวันที่ได้ปลดกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติดนั้นมีความชัดเจนว่า เหตุใดจึงสามารถปลดได้ และส่วนใดยังคงเป็นยาเสพติดอยู่ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้คือไม่มีกฎหมายมารองรับ เราได้นำเสนอกฎหมายเข้าไปสภาฯ และได้มีการรับหลักการในวาระแรกแล้ว และไม่ผ่านวาระสอง ซึ่งตนเองมองว่าเป็นเรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของเหตุ และผล โดยที่เราต้องยืนยันเจตนารมย์ต่อไป ว่าสามารถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเมื่อเราใช้อารมณ์ และความรู้สึกมากำหนดนโยบายต่างๆ เหล่านี้ เราก็ต้องมีข้อมูลที่จะสนับสนุด้ใวพร้อมยืนยันว่าไม่ได้กังวลใดๆ โดนจากนี้ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการ ป.ป.ส.

ทั้งนี้ ตนเอง และพวกได้นั่งเป็นคณะกรรมการด้วย ขณะนี้เราย้ายมาทำงานที่กระทรวงมหาดไทยแล้ว เราก็ได้เข้าไปให้ข้อมูลเท่าที่มี เพื่อให้คณะกรรมการทั้งหลายรับทราบส่วนมติจะออกมายังอย่างไรนั้นก็เป็นไปตามกฏหมาย

ส่วนการเยียวยา หากมีการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่ทุกคนพึงพอใจ คือ ตอนประกาศให้กัญชาพ้นจากการเป็นยาเสพติด มีนักโทษประมาณ 7,000 คนได้รับการปล่อยตัวทันที บางคนเป็นแพทย์ประจำบ้าน หรือแพทย์แผนไทย ซึ่งได้ใช้กัญชาในการรักษาคนไข้ ก็ถูกดำเนินคดีก็ได้รับการปล่อยตัวทันที เราต้องเตรียมพร้อม ตนเองไม่ได้บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ในวันนี้ หากมีข้อมูลใหม่ที่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ากัญชาอันตราย และเป็นสารเสพติด ตนเองก็ต้องรับฟัง และพิจารณา ซึ่งปัจจุบันเราจึงคงต้องรอข้อมูลเหล่านั้นมาก่อน รวมถึงยังมีกรณีการสามารถปลูกกัญชาจำนวน 6 ต้นได้ทหรือผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าพื้นบ้าน ที่มีการจดแจ้ง และหากกัญชาต้องกลับไปเป็นยาเสพติด ก็จะต้องมีบทเฉพาะกาลคุ้มครองคนเหล่านี้หรือไม่อย่างไร

ส่วนนโยบายกัญชาที่ถือว่าเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทยด้วยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยให้ความไว้วางใจในเรื่องนี้ และได้เข้าไปกำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข พรรคภูมิใจไทยได้ดำเนินการตามนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยได้ให้สัญญาไว้ เราได้ถอดกัญชาออกจากการเป็นสารเสพติด และเมื่อมาถึงรัฐบาลนี้พรรคภูมิใจไทยไม่เพียงพอที่จะเข้าไปกำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง ซึ่งเราก็ต้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือพรรคการเมืองที่กำกับดูแลสาธารณสุข เป็นผู้กำหนดนโยบาย โดยที่เราต้องให้ข้อมูลว่าเหตุใดเราจึงเชื่อว่ากัญชานั้นมีประโยชน์มากกว่าเป็นโทษ และสุดท้ายก็ให้ไปร่วมกันโหวตในคณะกรรมการชุดต่างๆ และผลออกมาอย่างไรเราก็ต้องยอมรับ โดยที่เรายังไม่จำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

ส่วนสัญญาณที่นายกรัฐมนตรี และได้ว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะดึงกัญชากลับไปเป็นสารเสพติด ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล และกำกับดูแลการปกครอง นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ข้อมูล ในส่วนที่ตนเองเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และได้ปลดกัญชาออกจากสาร มองว่า กัญชาเป็นสมุนไพร และรักษาได้หลายโรค เราพิจารณาแล้วว่ากัญชามีประโยชน์ ทางการแพทย์ การที่ระบุว่า เป็นยาเสพติดนั้น ยาเสพติดเป็นยาหลักทางด้านสมุนไพรได้หรือไม่ เราต้องมานั่งตอบคำถามกันว่าเราควรที่จะต้องดำเนินการในลักษณะนั้นหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าข้อมูล

เมื่อถามว่า หากดึงกัญชากลับไปเป็นสารเสพติดจะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยได้คะแนนเสียงไม่เพียงพอ ที่จะสามารถสานต่อนโยบายกัญชา และได้กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง เมื่อครั้งที่เรากำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข เราทำทุกอย่างแล้ว ได้ส่งกฎหมายเข้าสภาฯ แต่เราถูกหักหลัง และคนที่ต้องรับโทษก็คือประชาชนไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยไม่ได้กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุขแล้ว เราต้องให้เกียรติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนปัจจุบัน ที่จะต้องไปดำเนินการ

Related Posts

Send this to a friend