‘ชัยวัฒน์’ ร้อง ป.ป.ช.-กกต. เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ หลังให้ชาวบางกลอยกลับป่าแก่งกระจาน
วันนี้ (9 พ.ค. 66) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ในนามผู้พิทักษ์ป่า ยื่นหนังสือร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) หลังได้ลงนามเห็นชอบ กรณีให้กลุ่มชาติพันธุ์บางกลอยกลับไปทำระบบเกษตรไร่หมุนเวียนในพื้นที่บางกลอยบน จ.เพชรบุรี
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่า มิชอบด้วยกฎหมาย อันประกอบไปด้วย
1.รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 2560 มาตรา 45 “ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองกระทําการหรือส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใดกระทําการอันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทําการอันเป็นการทําลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ“
2.ขัดต่อยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 13 และนโยบายป่าไม้แห่งชาติ ให้ประเทศไทยต้องมีพื้นที่ป่าอย่างน้อยร้อยละ 40
3.ขัดคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด (คดีดำที่ อส.77/ 2559 คดีแดงที่ อส.4/2561) ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 “เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติว่า ผู้ฟ้องทั้งหก (ปู่คออี้กับพวก) ขอกลับไปทำกิน ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ปี 2524 โดยผู้ฟ้องทั้งหก ไม่มีหนังสืออนุญาตจากทางราชการให้ครอบครองมำประโยชน์ในที่ดินพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการยึดถือครอบครองที่ดินภายในอุทยานแห่งชาติ ฝ่าฝืนบทบัญญัติ มาตรา 16 (1) พรบ.อุทยานแห่งชาติ 2504 ผู้ฟ้องคดีทั้งหก จึงไม่อาจอ้างความชอบธรรมหรือสิทธิเรียกร้องใด ๆ ในอันที่จะเข้ายึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทตลอดจนแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติได้แต่อย่างใด“
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. และ กกต. เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้หน่วยงานของรัฐ ได้พิจารณาโครงการต่างๆ อย่างรอบคอบ ในการนี้ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณา ดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว ถ้าไม่มีการแก้ไข หรือละเลย โดยไม่สนใจในข้อร้องเรียน ถือได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจเป็นไปตามข้อกล่าวหา
“ในนามผู้พิทักษ์ป่า ไม่อยากยุ่งเกี่ยวข้องกับการเมือง หรือเป็นเหยื่อการเมืองในช่วงหาเสียงขณะนี้ แต่จำเป็นต่อป่าไม้ สัตว์ป่า จากความเห็นชอบของท่านนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์ทางภาคเหนือ กำลังเรียกร้องในลักษณะเดียวกันอีก และ เกิดขึ้นจากคำสั่งนี้ อีกมากมาย ที่สำคัญ การที่มีความเข้าใจในทางที่ผิด กลุ่มคนต่าง ๆ ขึ้นไปบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ ทำให้เกิดความเสียหาย และกระจายเป็นวงกว้าง ใครจะรับผิดชอบ และต้องใช้เวลาฟื้นฟู ใครจะมาฟื้นฟูป่าให้กลับมาสู่สภาพเดิมได้ เพราะป่าปลูกไม่ได้ในวันเดียว“ นายชัยวัฒน์ กล่าว
