สส. จากฝ่ายค้าน – ฝ่ายรัฐบาล เสนอ 10 ญัตติ รับมือมาตรการการขึ้นภาษีทรัมป์
‘ปกรณ์วุฒิ’ ลุกท้วง ดี๋ยวเป็นแบบครั้งแผ่นดินไหว ด้าน ’จุลพันธ์‘ บอก นายกฯ สนใจมาก ขอนำ ขรก. ร่วมฟังประชุมด้วย
วันนี้ (9 เม.ย. 68) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 30 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง ก่อนเข้าสู่วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติสร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ. … รวมถึงร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมอีก 3 ฉบับ ซึ่งมีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เป็นประธานการประชุม
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายการขึ้นภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อส่งให้รัฐบาลเร่งดำเนินการต่อไป
จากนั้น นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรศึกษาและติดตามมาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเสนอแนวทางให้รัฐบาลพิจารณาไปดำเนินการ
ด้าน นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ลุกขึ้นเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา แนวทางการเจรจาและมาตรการบรรเทาผลกระทบ
นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นเสนอติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา อุปสรรคทางการค้า และการส่งออกของประเทศ
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ลุกขึ้นเสนอติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแนวทางการรับมือผลกระทบของสงครามการค้าต่อเศรษฐกิจไทย เพื่อให้คณะกรรมการธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาแนวทาง
นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ลุกขึ้นเสนอติด่วนด้วยวาจา เรื่องผลกระทบแนวทางการแก้ไขปัญหาและการช่วยเหลือกรณีการขึ้นภาษีตามนโยบายทรัมป์ 2.0
นายประมวล พงศ์ถาวรเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นเสนอติด่วนด้วยวาจา เรื่องเพื่อให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางการแก้ไขผลกระทบจากการที่ประเทศสหรัฐในอเมริกาประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้า
นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลุกขึ้นเสนอติด่วนด้วยวาจา เพื่อนำไปสู่การพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการ เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาแผนการรับมือจากภัยพิบัตธรรมชาติและผลกระทบจากวิกฤตศรษฐกิจโลก เนื่องจากมองว่าจะต้องพิจารณาทั้งสองเรื่องของพร้อมกัน เพราะจะมีผลกระทบต่อประเทศเช่นเดียวกัน
ต่อมานายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเตรียมเสนอ แต่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ลุกประท้วงตัดหน้า ระบุว่าปกติเวลาเสนอญัตติอะไร จะมีการพูดคุยทางวิป 2 ฝ่ายก่อนว่าจะมีกี่ท่านและมีกี่ญัตติ อยากให้ยึดตามแนวทางวิป
“ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะเป็นแบบครั้งที่แล้ว (ญัตติแผ่นดินไหว) ที่โผล่กันมา 11 ญัตติกว่าจะเสนอกันเสร็จ กว่าจะจบ ครั้งที่แล้วมันยาวนานขนาดไหน ถ้าอยากจะตั้ง มันควรจะมีการประสานกันล่วงหน้า ไม่ใช่มาหน้างาน เรายกมือเสนอ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะมี 20 ญัตติ ก็ไม่ต้องพิจารณากันแล้ว” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ผศ.วรวิทย์ บารู สส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ลุกขึ้นเสนอติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้ศึกษาผลกระทบและแนวทางการแก้ไขปัญหามาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าของประเทศสหรัฐอเมริกา
นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นเสนอติด่วนด้วยวาจา เรื่องการขึ้นกำแพงภาษีของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีผลกระทบต่อการค้าของประเทศไทย
จากนั้น นายภราดร ได้ถามต่อที่ประชุม ว่ามีใครคัดค้านการพิจารณาญัติด่วนด้วยวาจาหรือไม่ เมื่อไม่มีใครคัดค้าน จึงถือว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้พิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากันกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เห็นบางญัตติที่สมาชิกได้เสนอกันมา เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสนใจ และ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็มีดำริให้รัฐมนตรีเข้ามามีส่วนร่วม โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน เข้ามารับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปเจรจากับประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไป ตนจึงขอใช้สิทธิ์ของคณะรัฐมนตรีเข้ามาร่วมรับฟัง ตอบคำถาม และชี้แจง และขอให้ประธานอนุญาตให้ข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาร่วมรับฟัง จดบันทึก รวมถึงทำสรุป เพื่อนำข้อสังเกตความเห็นของสมาชิกส่งต่อไปยังคณะเจรจาที่จะเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา
นายภราดร กล่าวสรุปว่า มีผู้เสนอญัตติด่วนทั้งสิ้น 10 ญัตติ พร้อมชี้แจงเรื่องการเสนอญัตติว่า โดยยกตัวอย่างจากสัปดาห์ที่แล้ว ที่ได้ให้มีการอภิปรายรวมกัน แล้วจึงให้ผู้เสนอญัตติเป็นผู้สรุปญัตติของตัวเอง แต่ก็มีสมาชิกลุกขึ้นมาทักท้วง โดยแตกเป็นประเด็น ซึ่งอาจเป็นความเข้าใจผิดของตนว่า เมื่อมีผู้สรุปญัตติแล้ว หมายความว่าเราจบญัตตินั้นๆ ไปแล้ว และปิดการอภิปรายไป และนำข้อเสนอของสมาชิกส่งไปยังรัฐบาล และกรณีที่มีการทักท้วงว่ามีอีกหนึ่งญัตติที่ลักษณะคล้ายกัน จะไม่สามารถนำเสนอได้แล้ว เพราะมีการสรุปญัตติ และปิดอภิปรายไปแล้ว จึงมีการหาทางออกร่วมกันให้ในวันพฤหัสบดีที่ 10 เม.ย.ที่จะถึงนี้ มีการเสนอญัตติด่วนขึ้นมาอีกครั้ง แตกไปเป็นอีกหนึ่งประเด็น พร้อมมองว่าข้อสังเกตของสมาชิกคนที่หลายคนก็เป็นข้อสังเกตที่ดี แต่ตามข้อบังคับตนเชื่อว่าสามารถดำเนินการตามนี้ได้
จากนั้น จึงได้ให้ผู้เสนอญัตติได้แถลงเหตุผลการเสนอของตนเอง