POLITICS

‘พิธา’ เผย รัฐบาลชี้แจงปมเมียนมาขอใช้สนามบินแม่สอดไม่ตรงกันสักคน จี้ แถลงเป็นทางการ

‘พิธา’ เผย รัฐบาลชี้แจงปมเมียนมาขอใช้สนามบินแม่สอดไม่ตรงกันสักคน จี้ แถลงเป็นทางการ ไม่เช่นนั้นอาจชักศึกเข้าบ้าน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด มองนายกฯ ไม่ควรพูด รัฐบาลเมียนมาเริ่มอ่อนกำลัง เพราะเป็นยุทธศาสตร์ทางการทูต

วันนี้ (9 เม.ย. 67) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีท่าทีรัฐบาลหลังทางการเมียนมาขอใช้สนามบินแม่สอด จังหวัดตากว่า อย่างที่ตนเองได้สื่อสารไปหลายทิศทางว่าอยากเห็นความโปร่งใสและรายงานสถานการณ์ให้กับคนในพื้นที่ เพราะคนที่อยู่ในพื้นที่ก็ได้รายงานมาที่ สส.พรรคก้าวไกล นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าจะมีการใช้ความรุนแรงเพิ่มเติม เมื่อรัฐบาลไม่ได้มีการชี้แจง ตนเองและพรรคก้าวไกลจึงตั้งคำถามให้มีการแถลงเกิดขึ้น โดยรัฐบาลได้ตอบสนองมาทั้งหมด 4 ครั้ง ได้แก่ x ของนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศ คำสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี และโฆษกกระทรวงกลาโหม ซึ่งทั้งหมดนี้ยังคลุมเครือไม่ชัดเจน ไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน หลักของเราก็คือว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามหลักกฎหมายสากล และเรื่องสิทธิมนุษยชน มีความเท่าเทียมกันแล้วอธิบายได้ ตรวจสอบได้ ถามได้ ผมคิดว่ามันจะคลายข้อสงสัยและเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ เป็นประโยชน์กับทางรัฐบาลเอง

นายพิธากล่าวต่ออีกด้วยว่าส่วนภาพใหญ่อยากจะย้ำกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากให้เข้าสู่ปัญหาอย่างรอบด้านมากขึ้น เพราะกลุ่มในประเทศเมียนมามีหลายกลุ่ม และแต่ละพื้นที่ก็แตกต่างกันออกไป ถ้าเข้าสู่ปัญหาไปที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ก็จะดูว่าเราทิ้งน้ำหนักไปให้ฝั่งนั้น และจะไม่ตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วเพียงพอ

นอกจากนี้เรื่อง Inter Agency Myanmar Task Force ในประเทศไทย หรือกองกำลังเฉพาะกิจที่จัดการเรื่องนี้โดยตรง เพื่อจะทำงานในเชิงรุกมากขึ้น ส่วนที่นายปานปรีย์ ออกมาชี้แจงว่าในเที่ยวบินนั้นไม่มีคนหรืออาวุธนั้น ก็จะยิ่งไม่มีความชัดเจน บางทีจุดประสงค์ของการแถลงที่กระทรวง ก็เพื่อจะลดข่าวลือ เพื่อจะให้ความมั่นใจกับประชาชนในพื้นที่และคนไทยว่าประเทศไทยจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง

นายพิธา ยังนับนิ้วคนที่ออกมาชี้แจง พร้อมกล่าวว่านายปานปรีย์ก็เป็นคนที่ 5 ที่ออกมาพูดแล้วไม่ตรงกัน ทำให้เกิดความสงสัยว่ามีสิ่งที่ร่ำลือกันในพื้นที่ว่ามีคนในจังหวัดเมียวดีไปด้วยหรือไม่ มีผู้จัดการธนาคารไปหรือไม่ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เชื่อ แต่ถ้าจะจบทุกเรื่อง รัฐบาลจะต้องแถลงเป็นเรื่องเป็นราว โดยจะเป็นการชักศึกเข้าบ้านหรือไม่ น่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ตามมา ในเชิงการต่างประเทศเราต้องมีช่องทางที่ไม่ให้เกิดสิ่งที่ลุกลาม ซึ่งตนเองคิดว่านายปานปรีย์น่าจะเข้าใจ ถ้าไม่แถลงให้ชัดเจนก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้มากกว่านี้ รัฐบาลควรต้องต่อสายไปที่คนในพื้นที่ ชนกลุ่มน้อย และกลุ่ม NUG

“เขาเล่าให้ผมฟังว่าติดต่อทางรัฐบาลหลายครั้งแต่ว่าไม่ยอมที่จะเจรจาด้วย … ตอนที่อยู่เจนีวา ประชุมรัฐสภาโลก IPU ก็มีคนของทางเมียนมาไปที่เจนีวา เขาก็ได้พูดความในใจของฝั่งเขาว่า พอ Diplomacy ของไทยไม่รอบด้าน สิ่งที่เขาพูดหรือเสนอก็ไม่ได้รับฟัง ผมคิดว่าในเมื่อน้ำหนักมันมาแบบนี้แล้ว มันถึงเวลาที่จะต้องเข้าถึง อย่างน้อยก็ต้องพูดคุยทั้ง 3 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเป็นชาติพันธ์ุ แต่ละรัฐก็เป็นผู้นำของตัวเอง กลุ่ม NUG และรัฐบาลทหารในปัจจุบัน”

ถ้าเราอธิบายให้รัฐบาลทหารฝั่งว่าเราต้องการข้อมูลที่รอบด้าน ครบถ้วน จะทำให้เราเข้าใจในสถานการณ์เมียนมาดีขึ้น ก็จะสามารถวางยุทธศาสตร์ได้มากขึ้น ตอนที่ผู้นำ NUG อยู่ที่เจนีวา ก็เล่าให้ตนเองฟังว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ แต่มันก็ไม่เหมาะสมที่จะพูดผ่านสื่อ ตนเองจึงถามเขากลับว่าเรื่องการเผาข้าวโพด การค้ามนุษย์ ออนไลน์สแกม ท่านผู้นำชนกลุ่มน้อยสามารถที่จะช่วยเมืองไทยด้วยได้หรือไม่ แล้วเราก็ยินดีที่จะช่วยเรื่องระเบียงมนุษยธรรมอย่างเท่าเทียม เขาก็บอกว่านั่นแหละคือสิ่งที่เขารออยู่ ถ้าเป็นเรื่องจริง การที่เราเข้าถึงทุกฝ่ายได้อย่างเท่าเทียมและไม่เลือกข้าง มันคือโอกาสที่จะทำให้เราเข้าใจปัญหาในเมียนมามากขึ้น และทุเลาปัญหาที่มีอยู่ในบ้านเรา มันคือ Win-Win Situation

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติว่าช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเข้าไปพูดคุยเจรจากับรัฐบาลทหารเมียนมา เพราะอาจจะเป็นจุดที่เขาอ่อนกำลัง นายพิธา กล่าวว่าเห็นด้วย แต่ไม่น่าออกสื่อ เรื่องพวกนี้เป็นยุทธศาสตร์การทูต ไม่ควรจะพูดว่าเขากำลังอ่อนแอ แล้วเราจะขอไปคุยกับเขา ไม่สามารถพูดได้ว่าตอนนี้รัฐบาลอ่อนแอที่สุด ทั้งนี้ต่างชาติทั้งในอาเซียน และประเทศมหาอำนาจก็รอท่าทีที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น ไม่เช่นนั้นยุทธศาสตร์ 5 ข้อของอาเซียนจะไปไม่ได้ ตอนนี้ก็รอบทบาทไทยร่วมกับอาเซียนอยู่

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat