‘ทวี‘ ยัน ‘ทักษิณ’ ป่วยจริง ยกดรัมเบลโฟมในน้ำเป็นการทำกายภาพตามคำแนะนำแพทย์
‘พ.ต.อ.ทวี‘ ยัน ‘ทักษิณ’ ป่วยจริง ยกดรัมเบลโฟมในน้ำเป็นการทำกายภาพตามคำแนะนำแพทย์ ฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าตัดไหล่ เหน็บ ’หมอวรวค์‘ บางคนสงสัยชอบพูดทางการเมืองให้เสียหาย
วันนี้ (9 เม.ย. 67) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นำเอกสารทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเผยแพร่ว่าอาจไม่ได้ป่วยจริงถึงขั้นได้ 9 คะแนน ที่ต้องได้รับการพักโทษว่า ไม่ทราบว่า นพ.วรงค์ ได้หลักฐานมาอย่างไร แต่จากการสอบถามแพทย์ที่ทำการรักษา 3 คน แทพย์คนแรกมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแพทย์อีก 2 คน เป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งแพทย์ทั้ง 3 คน บอกว่า ภาพที่ปรากฏเล่นดรัมเบลในน้ำ เป็นการฟื้นฟูผู้ป่วยที่ทำกายภาพในน้ำ เป็นดรัมเบลโฟมที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยกับผู้ป่วยที่ต้องการฟื้นฟูสภาพร่างกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อไหล่และข้อศอก สำหรับผู้ป่วยที่มีประวัติการผ่าตัดไหล่ และเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์เพื่อกายภาพเสริม
ส่วนจะยืนยันได้หรือไม่ว่า นายทักษิณป่วยถึงขั้นได้แค่ 9 คะแนน พันตำรวจเอก ทวี บอกว่า เป็นเรื่องของแพทย์ พร้อมย้ำว่าได้สอบถามกับแพทย์แล้ว ภาพที่ปรากฏเป็นการทำกายภาพในน้ำ ซึ่งเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์
ส่วนการยกดัมเบลโฟมต้องทำนานหรือไม่ ก็ต้องสอบถามจากแพทย์ แต่ในหน้าที่ของตน หากสงสัย ก็ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง แต่บางคนเวลาสงสัยจะมีวิธีทางการเมือง พูดให้คนเสียหายไปก่อน นี่คือความแตกต่าง ส่วนเอกสารที่ นพ.วรงค์ นำมาเผยแพร่เป็นเอกสารจริงหรือไม่นั้น ยังไม่เห็น ยังไม่ได้อ่าน แต่ดูจากข่าวที่มีคนโทรมาถามเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ เพราะนายทักษิณปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำ
ส่วนเรื่องนี้จะส่งผลต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่อาจจะเจอข้อหา ม.157 หรือไม่นั้น พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า มันเป็นกระบวนการการทำงาน ไม่ได้ดำเนินการด้วยคนคนเดียว และทำตามหลักวิชาชีพ ตามหลักฐาน พร้อมออกตัวว่านี่ไม่ใช่ความเห็นของตนเอง แต่เป็นความเห็นของแพทย์
อย่างไรก็ตาม ในการตอบคำถามสื่อมวลชนครั้งนี้ พันตำรวจเอก ทวี ได้อ่านเอกสารทางการแพทย์ตลอดเวลา พร้อมกับทิ้งท้ายด้วยว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปสอบถามเจ้าหน้าที่ แต่ในหน้าที่ของรัฐมนตรี ถ้ามีคนสอบถามหรือสงสัย เราไม่ควรไปโกรธคนสงสัย แต่ควรหาข้อเท็จจริงและชี้แจง