นายกฯ ยืนยัน เดินหน้าช่วยกลุ่มเปราะบางลดค่าไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

ระบุรัฐบาลนี้บริหารงานอย่างเต็มที่ เพื่อไม่ให้เป็นภาระรัฐบาลหน้า วอนภาคอุตสาหกรรมอย่าขึ้นราคาสินค้า ชี้อัตราค่าไฟ 4.75 บาท ยังรับฟังความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องก่อน

วันนี้ (9 มี.ค. 66) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ว่า ในวันนี้ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะการนำพลังงานหมุนเวียนมา และขยายกำลังการผลิตมาใช้ให้มากขึ้น โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่นจะต้องแก้ปัญหาเรื่องโลกร้อน ขยะ และนำกลับมาใช้เป็นพลังงาน ให้สอดคล้องกับแผนการลดใช้พลังงานฟอสซิลลง นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือค่าไฟฟ้า พยายามจะไม่ให้คนทุกกลุ่มเดือดร้อน ซึ่งยังคงดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย พร้อมรับฟังความคิดเห็นราคาค่าพลังงาน

นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ต้องการให้ใครเดือดร้อนทั้งสิ้น แต่เข้าใจว่ารัฐบาลจะต้องบริหารอย่างระมัดระวังมากที่สุด หากบริหารไม่ถูกต้องไม่ดีก็จะมีปัญหาในการบริหารงานข้างหน้า ซึ่งตนเองได้มอบแนวคิดไปแล้วว่า จะพยายามให้เดือดร้อนน้อยที่สุด หรือไม่เดือดร้อนเลย ถ้าสถานการณ์โลกดีขึ้น ทั้งนี้ยอมรับว่าห่วงเรื่องอัตราเงินเฟ้อ และการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทย แต่รัฐบาลพยายามทำเต็มที่แล้ว

ทั้งนี้ในที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยถึงการตรึงราคาแอลพีจี แต่ได้มีการหารือถึงมาตรการดูแลค่าไฟฟ้า ซึ่งมาตรการที่เคยดูแลประชาชนก็จะทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานขอค่าไฟงวดใหม่ อยู่ที่ 4.75 บาทต่อหน่วย ซึ่งตอนนี้ กำลังรับฟังความคิดเห็นอยู่ เพราะรัฐบาลใช้เงินในการดูแลค่าไฟถึง หมื่นล้านบาท ขอให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลได้ทำเต็มที่แล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในระยะยาว มีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคตหรือสร้างภาระให้กับรัฐบาลใหม่ และวันนี้ได้ทำเพื่ออนาคตในทุกเรื่อง สิ่งไหนที่มีความจำเป็นก็ต้องมีการพิจารณาในเบื้องต้นก่อน

ส่วนกรณีข้อเรียกร้องภาคเอกชนให้มีการลดค่าไฟ ที่จะลดต้นทุนการผลิต และบริการนั้น พลเอกประยุทธ์ ย้ำว่าต้องขอร้องกัน เพราะวันนี้รัฐบาลได้ดูแลภาคอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งได้หารือกันแล้วภาคอุตสาหกรรมก็เห็นด้วย ซึ่งก็ขอร้องภาคอุตสาหกรรมอย่าขึ้นราคาสินค้า

ขณะที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบทิ้งทวน เพื่อเรียกคะแนนก่อนเลือกตั้งนั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเพิ่มค่าป่วยการของ อสม. เป็นข้อเสนอของพรรคร่วมรัฐบาล จึงนำขึ้นมาพิจารณา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้งบประมาณเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ต้องจัดหา งบประมาณให้เพียงพอ จึงต้องใช้งบประมาณปี 2567 ซึ่งจะต้องมีการเสนอแผนการใช้จ่ายต่อสภา คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบในหลักการเท่านั้น พร้อมมองว่าไม่ได้ทำเพื่อใคร แต่ทำเพื่อประชาชนทั้งนั้น เนื่องจาก อสม.ทำงานเน็ตเหนื่อยก็มีการพิจารณาขึ้นค่าป่วยการให้