นายกฯ สั่งภาคท่องเที่ยว เข้มงวดความปลอดภัยทุกมิติ หลังแนวโน้มนักท่องเที่ยวเพิ่มต่อเนื่อง

วันนี้ (8 ธ.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ติดตามข้อมูลภาคการท่องเที่ยว พบว่าแนวโน้มที่ชาวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว อาทิ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ให้เพิ่มความเข้มงวดในประเด็นความปลอดภัย ทั้งในสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยว การเดินทางทุกช่องทาง ตลอดจนความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัยจากโรคระบาด การบริการ และอาหาร

“กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานว่า ณ สิ้นเดือน พ.ย. 65 หรือ 11 เดือนแรกของปี 65 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 9.09 ล้านคน เฉพาะเดือน พ.ย. เดือนเดียว 1.73 ล้านคน รัฐบาลจึงมั่นใจว่าตลอดทั้งปี 65 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยทะลุเป้าหมาย 10 ล้านคนอย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีจึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อรักษาความเชื่อมั่น ที่ขณะนี้ ต่างชาติได้เลือกไทยเป็นจุดหลายปลายทางแรกๆ ที่เดินทางไปเยือนหลังการคลี่คลายของโควิด19” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี ยังกล่าวถึงรายงานผลการสำรวจของ InterNations โดย CNBC ซึ่งเป็นชุมชนออนไลน์สำหรับชาวต่างชาติ ที่มีสมาชิกทั่วโลกกว่า 4.5 ล้านคน ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับเมืองที่น่าอยู่และน่าทำงานที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ โดยมีผู้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ 12,000 คน พบว่า กรุงเทพมหานคร ติดอันดับที่ 6 โดยความเห็นของชาวต่างชาติที่มีต่อกรุงเทพฯ ร้อยละ 82% มีความสุขต่อคุณภาพการดูแลรักษาทางการแพทย์ , ร้อยละ 79 มีความสุขกับชีวิตโดยทั่วไป , ร้อยละ 69 มีความสุขต่อค่าครองชีพ , ร้อยละ 68 มีความสุขต่อความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต , ร้อยละ 66 มีความสุขต่ออาชีพการทำงาน และร้อยละ 54 ระบุว่าสามารถพบเพื่อนใหม่ได้ง่าย