‘ปิยรัฐ‘เผย ’พรรคประชาชน‘ เร่งยื่นประกัน ‘ชลธิชา’ มั่นใจไม่มีปัญหา
‘ปิยรัฐ‘เผย ศาลจำคุก ’ชลธิชา‘ 2 ปี 8 เดือน คดี ม.112 ชี้ ’พรรคประชาชน‘ เร่งยื่นประกันเต็มที่ มั่นใจไม่มีปัญหา ระบุ หากศาลไม่รับการประกันต้องเข้าเรือนจำ-พ้นสภาพ สส.
วันนี้ (8 ก.ย. 68) ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ภายหลังศาลมีผลคำพิพากษาจำคุก นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดฐานนำเข้าข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำนวน 2 ปี 8 เดือน โดยกลุ่ม สส.พรรคประชาชน นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. นายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี เขต 7 นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ และ นายชยพล สท้อนดี สส.กทม.
นายปิยรัฐ เปิดเผยว่า ศาลได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง จึงลงโทษจำคุก 4 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงเป็นเหตุให้ลดโทษ 1 ใน 3 คงโทษจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ขณะนี้ นางสาวชลธิชา กำลังดำเนินการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี คาดว่าจะได้รับการพิจารณา และฟังคำสั่งของศาลในช่วงบ่ายวันนี้
ทั้งนี้ นายปิยรัฐ กล่าวต่อว่า หากนางสาวชลธิชาไม่ได้รับการประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์คดีก็ต้องถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำ เมื่อนั้นนางสาวชลธิชาจะพ้นสภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทันที และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องประกาศวันเลือกตั้งซ่อมใหม่ในเขต 3 จังหวัดปทุมธานี ภายใน 45 วัน ดังนั้น ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาชนจึงดำเนินการอย่างเต็มที่ที่จะยื่นเรื่องขอประกันตัวนางสาวชลธิชา ในระหว่างอุทธรณ์คดี และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหา เพราะศาลจะใช้ดุลพินิจในการพิจารณาอย่างเป็นธรรม
นายปิยรัฐ กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมานางสาวชลธิชา ให้ความร่วมมือเดินทางมาศาลตามนัดทุกครั้ง ขณะเดียวกันคดีนี้เป็นคดีที่ 2 ของนางสาวชลธิชา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยถูกคำพิพากษาจำคุก 2 ปี ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี และศาลก็ให้ประกันตัวในระหว่างอุทธรณ์คดี จึงมั่นใจว่าในคดีนี้จะไม่มีปัญหาในการประกันตัว
อย่างไรก็ตาม นายปิยรัฐ ยังกล่าวอีกว่า ยังคงมี สส.พรรคประชาชน ที่ต้องรอฟังคำพิพากษาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คือ นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ซึ่งอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ ส่วนของตนเองก็มีคดีมาตรา 112 ที่ยกฟ้องไปแล้ว 2 คดี แต่รอลุ้นว่าฝ่ายโจทก์จะอุทธรณ์หรือไม่กับคดีที่ต้องไปสืบพยานที่ จ.อุบลราชธานี












