สมคิด พร้อมสนับสนุนพรรคสร้างอนาคตไทย ขอทำการเมืองที่ดี

เป็นกลาง ชูจุดแข็งเงินไม่สามารถซื้อม้าคอกได้ ต้องทำนโยบายให้คนมาร่วม ย้ำ ใช้แรงบันดาลใจไม่ใช่ใจบันดาลแรง

วันนี้ (8 ก.ย. 65) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ประชุมสัมมนาสัมมนาผู้แสดงเจตจำนงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคสร้างอนาคตไทย โรงแรมรามา การ์เด้นส์ หลังจากที่วานนี้ (7 ก.ย. 65) ทางพรรคเชิญ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาเป็นประธานพรรค ซึ่งในวันนี้ทาง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้ขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์

ดร.สมคิด กล่าวว่า ที่มาในวันนี้ไม่ได้มาเพราะตำแหน่งนายก แต่ต้องการมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาเรามีนายกที่ดีบ้าง อ่อนบ้าง และบางคนที่ได้เป็นนายกบางทีพลังไม่ถึง หรือบางคนพลังถึงแต่ไม่คิดจะทำ ซึ่งวันนี้ได้พาลูกมาด้วย เพื่อแสดงให้เด็กรุ่นใหม่เห็นว่าการเมืองไม่ใช่วิ่งที่เลวร้าย การเมืองดีก็มี คนตั้งในทำงานก็มี

ดร.สมคิด ระบุว่า วัตถุประสงค์หลักที่มาในวันนี้เพื่อให้กำลังใจคนในพรรค ขอบคุณที่สร้างพรรคการเมืองที่เป็นที่พึ่งของประชาชนที่แท้จริง ขอบคุณที่มีความเด็ดเดี่ยวที่กล้าประกาศจุดยืนอยู่ในทางสายกลาง ไม่คิดสุดโต่งสุดขั้ว แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย การทำแบบนั้นจะที่มีแต่ทำลายตัวเอง ทำลายอนาคตของชาติ จุดสำคัญคือต้องเป็นกลาง สร้างพลังแห่งชาติให้คนมาทำงานร่วมกันคิดในสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อชาติบ้านเมืองเป็นใหญ่

“การแข่งขันทางการเมืองสูง มีแต่พวกซื้อคอกม้า แต่เราจะไม่ซื้อ เพราะสิ่งนี้ทำให้คนรุ่นหลังหันหน้าออกจากการเมือง ซึ่งอนาคตอยู่ที่คนรุ่นหลัง จึงรวบรวมความคิดสร้างนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน คือความกล้าหาญที่แท้จริง ไม่คำนึง หรือกลัวว่าได้กี่เสียง แต่ศรัทธาของประชาชนนั่นแหละคือหัวใจ ถ้าเล่นการเมืองคิดจะสร้างโครงสร้างของอำนาจ ไม่สร้างโครงสร้างทางปัญญา สุดท้ายตัวเองก็จะไปไม่รอด และจะพาชาติบ้านเมืองไปไม่รอดด้วย”

ดร.สมคิด ระบุต่อว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ค่า GPD ลดลงจนถึงติดลบ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้หนี้สะสมของประเทศเพิ่มสูงขี้นด้วย ต่างประเทศก็มาลงทุนในไทยน้อย เรามีนายกรัฐมนตรี แต่คนไหนตัวจริงก็ไม่รู้ เราต้องมีนายกที่โฟกัสไปที่การทำงาน จะให้ใครเป็นคนนำ ก็อยู่ที่เรื่องในสภา หากไม่ช่วยก็ยุบสภาเลย เมืองไทยจะไปไม่ไหวปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ยิ่งนับวันก็ยิ่งจน ทำให้ตกเป็นเหยื่อของการยุยง ปลุกปั่น แบ่งฝ่าย ให้บ้านเมืองแตกกัน ไม่มีใครได้ประโยชน์นอกจากคนปลุกปั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคไม่อยากให้เกิดขึ้น

“ผมสนับสนุนพรรคในทุกทาง ทุกรูปแบบ คนอย่างผมไม่มีใจบันดาลแรง แต่ผมมีแรงบันดาลใจ ที่ช่วยเหลือประเทศไทย สร้างอนาคตให้ประเทศไทยไม่ใช่เพื่อตนเอง” ดร.สมคิดกล่าวถึงกรณีถูกเชิญให้เป็นประธานพรรค

ดร.สมคิด ระบุว่า จะสนับสนุนพรรค หากรับปากได้ว่าพรรคสามารถทำได้ดังนี้

1.สร้างพรรคการเมืองที่ดี ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์ ด้วยนโยบาย เป็นพรรคการเมืองเพื่อประชาชน อย่างแท้จริง ให้ประชาชนมีสิทธิเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดวาระสำคัญของพรรคทั้งในสภาและนอกสภา
2.กอบกู้เศรษฐกิจ สร้างอนาคตในประเทศ เตรียมแผนทั้งระยะยาว และระยะสั้น
3.ผู้นำต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงของประเทศ พรรคการเมืองทั่วไปต้องสนับสนุน เน้นขายนโยบายให้ได้ ไม่งั้นเลือกตั้งกี่ครั้งก็เหมือนเดิม
เรื่องภายในสภา เปลี่ยนแปลงทุกแก้กฎหมายใหม่ และเก่า

“ถ้าต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ต้องเปลี่ยนการเมือง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการเมืองต้องเปลี่ยนรัฐธรรมนูญด้วย ทำให้คนมามีส่วนร่วมทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงการสร้างพรรคที่ดีอย่าแสวงหาอำนาจ ให้แสวงหาคน ต้องไม่มีศัตรู มีแต่มิตร เพราะเมืองไทยรอไม่ได้แล้ว ส่วนการเป็นนายก ก็อยู่ที่ฟ้าลิขิต แต่ผมพร้อมที่จะเป็นผู้นำของทุกคน” ดร.สมคิดกล่าวทิ้งท้าย

ซึ่งภายในงานเปิดตัวมีนักการเมืองคนสำคัญอย่าง นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกฯ พร้อมบุตรชาย นายปรพล อดิเรกสาร อดีต ส.ส.สระบุรี และนายนวกิจ พลวิเศษ บุตรชายนายภิรมย์ พลวิเศษ อดีต ส.ส.นครราชสีมา นายสมัย เจริญช่าง อดีต ส.ส พรรคประชาธิปัตมาร่วมงานด้วย นอกจากนี้ยังอดีตแกนนำกลุ่มสามมิตร ที่จะไปเปิดตัวด้วย หลังจากได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.โดยทั้งหมดยื่นใบสมัครสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย ไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา