สว.เสรี เตรียมตรวจสอบ ‘เศรษฐา’ กรณีภาษีที่ดิน ชี้ต้องชัดเจนก่อนโหวตเลือกนายกฯ รอบหน้า
วันนี้ (8 ส.ค. 66) นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึง การร่วมจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้เพราะการจัดตั้งรัฐบาล เพิ่งรวมเสียงได้ แค่ 200 กว่าเสียง ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะมีพรรคการเมืองอื่นมาร่วมหรือไม่ เพื่อให้เกิดเสถียรภาพ และยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคใด เพื่อขอความเห็นชอบในที่ประชุมรัฐสภา แม้ว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่เมื่อถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง การจะพูดตอนนี้จะกลายเป็นว่า สว.ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ชื่อของนายเศรษฐา มีคุณสมบัติพอที่จะพิจารณา แต่ก็ต้องตรวจสอบว่า มีมาตรฐานที่เคยตัดสินใจไว้แล้ว คือ 1.ไม่แตะมาตรา 112 และไม่แก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวดสอง 2.บุคคลที่ถูกเสนอชื่อมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ และ 3. ต้องดูนโยบายพรรคเพื่อประกอบการตัดสินใจ เพราะถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้คือแนวทางที่ สว.วางไว้ตั้งแต่การเลือกนายกฯครั้งที่แล้ว
ส่วนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นให้ สว.ตรวจสอบนายเศรษฐา กรณีภาษีที่ดิน นายเสรี กล่าวว่า กรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมในวันนี้ เพื่อตรวจสอบรายละเอียดว่า เกี่ยวข้องกับภาระหน้าที่ของกรรมาธิการหรือไม่ หากไม่เกี่ยวข้องก็จะส่งต่อให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีในครั้งต่อไป เพราะถือว่ามีส่วนสำคัญในการเข้ามาบริหารประเทศ จะต้องตรวจสอบได้ มีเหตุมีผล โดยไม่อคติ
ส่วนที่่วานนี้ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สว. ออกมาระบุว่า นายกรัฐมนตรีคนต่อไปไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทยนั้น นายเสรี กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายกิตติศักดิ์เพียงคนเดียว ไม่ใช่การตั้งธงของ สว.ทั้งหมด ตอนนี้ยังไม่สามารถฟันธงเรื่องอะไรได้ เพราะยังไม่รู้ว่าชื่อที่ถูกเสนอ ในที่ประชุมรัฐสภาจะเป็นใคร แต่ส่วนตัวย้ำว่าหากมีการเสนอชื่อนายเศรษฐา ควรจะให้เจ้าตัวเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อตอบข้อสักถามสมาชิกด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม หากการร่วมรัฐบาลมีพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติจะเป็นปัจจัยที่ ทำให้ สว.สนับสนุนมากขึ้นหรือไม่นั้น นายเสรี กล่าวว่า มีผลทุกพรรค สว.ต้องพิจารณาหมดทุกพรรค แต่ก็เป็นปัจจัยในแต่ละพรรคว่าพรรคที่มาร่วมต้องไม่สร้างปัญหา เพราะต้องยอมรับว่า สถานการณ์ตอนนี้มีการแสดงออกทางการเมืองที่ก้าวร้าวรุนแรง มีบางพรรคไปอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น นักการเมืองจะต้องมีความรับผิดชอบเข้ามาแก้ไขปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่นึกจะทำอะไรก็ได้ เพราะจะทำให้ประเทศไปสู่ทางตันเกิดความเสียหาย
