‘ปกรณ์วุฒิ’ หนุนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทุกฉบับ
‘ปกรณ์วุฒิ’ หนุนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทุกฉบับ ชี้ ไม่ควรปิดกั้นแม้คดี 112 ขออย่ามองตัวบุคคลต้องมองถึงภาพรวมผลของสังคม เพราะทุกคดีเป็นคดีอาญาเหมือนกัน
วันนี้ (8 ก.ค. 68) ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ที่จะเข้าสภาในวันที่ 9 ก.ค.นี้ แทนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ ‘เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์’ ซึ่ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังมีประเด็นถกเถียงในมาตรา 112 อยู่
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทั้งหมด 5 ฉบับ มีการเพิ่มของพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาอีก 1 ร่าง แต่ละร่างเนื้อหาค่อนข้างใกล้เคียงกัน มีความแตกต่างกันที่บางร่างยกเว้นมาตรา 112 บางร่างแค่เปิดไว้เฉย ๆ ขณะที่ร่างของพรรคประชาชนระบุให้นิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย
ส่วนตัวเห็นว่าสามารถรับทุกร่างและไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการได้ สภาฯ ไม่ควรปิดกั้นว่าคดีแบบไหนควรจะได้รับการนิรโทษ เพราะคดีที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองเกิดได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการชุมนุม การฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.อื่น ๆ แม้กระทั่งมาตรา 112 ทุกคดีที่ต้องการนิรโทษกรรมคือคดีอาญาเหมือนกัน จึงอยากให้เข้าไปพูดคุยในชั้นกรรมาธิการ ส่วนที่มีบางพรรคขอตัดประเด็น 112 เลย พรรคประชาชนก็พยายามทำความเข้าใจมาโดยตลอด ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคว่าฟังหรือไม่ ถ้าไม่ได้มีธงมาตั้งแต่ที่บ้าน ทุกเรื่องทุกร่างสามารถพูดคุยกันได้หมด
“ทุกพรรคพูดเหมือนกันว่าต้องการคลี่คลายความขัดแย้งและอยากให้เกิดความปรองดอง ถ้าอย่างนั้นถ้ามีความเปิดกว้าง ความปรองดองก็จะเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
นอกจากนี้ ได้อ่านมติของวิปรัฐบาลแล้ว ไม่มีมติคว่ำร่างของพรรคประชาชน ไม่แน่ใจว่าตัวแทนของวิปที่ออกมาให้ข่าว คือรวมไทยสร้างชาติ เจตนาเป็นอย่างไร และได้รับคำยืนยันจากพรรคอื่นว่า ยังไม่มีมติในเรื่องนี้ เพียงแต่มีมติรับหลักการของพรรครวมไทยสร้างชาติ และร่าง พ.ร.บ. สร้างเสริมสังคมสันติสุข ของนายปรีดา บุญเพลิง ส่วนร่างอื่น ๆ ไม่มีมติอะไร
ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลต้องไปคุยกันว่า การที่วิปรัฐบาลของบางพรรคออกมาพูดเกินสิ่งที่รัฐบาลคุยกันน่าจะต้องให้เกียรติกันมากกว่านี้ เพราะทำให้สังคมเข้าใจผิดว่าผลที่จะเกิดขึ้นพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เป็นการสร้างอำนาจต่อรองและกดดันพรรคใหญ่หรือไม่ เมื่อยังไม่มีมติอาจจะต้องรอดูบ่ายนี้ในการประชุมพรรคเพื่อไทย ซึ่งแต่ละพรรคมีเอกสิทธิ์ของตัวเอง บางร่างพรรคอื่น ๆ ก็เคยมีมติไม่เหมือนกัน ก็ร่วมงานกันต่อได้ ด้านฝ่ายค้านไม่มีปัญหาอยู่แล้วลงมติเหมือนหรือแตกต่างกัน ทำหน้าที่ตามจุดยืนของแต่ละพรรค
เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยไม่ชัดเจนเพราะมีกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดนคดี 112 ด้วย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่อยากให้ตัดสินใจโดยที่ไม่ได้คิดว่าเกิดกับใคร ต้องคิดว่าผลทางสังคมที่จะเกิดขึ้นเวลากฎหมายบังคับใช้ต้องใช้กับทุกคน ดังนั้นไม่ว่าพรรคการเมืองเองหรือสังคมต้องมองในภาพรวมว่าผลของกฎหมายจะส่งผลทางสังคมอย่างไร ไม่ใช่ส่งผลต่อตัวบุคคลอย่างไร เราพยายามปลดล็อคให้ทุกคนที่แสดงออกทางการเมืองตามสิทธิ์รัฐธรรมนูญได้รับโอกาสที่จะได้รับนิรโทษกรรม
ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันมาโดยตลอดว่าจะไม่นิรโทษกรรมมาตรา 112 ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค แต่ก็มีการพูดคุยทำความเข้าใจกัน ร่างของพรรคประชาชนไม่มีคำว่า 112 เราไม่ได้ระบุอะไรไว้เลย เพียงแต่เปิดทางไว้ให้พูดคุยกันเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าต้องนิรโทษคดี 112 ให้ได้ แต่เมื่อปิดโอกาสและทำความเข้าใจในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งเป็นวงเล็ก และเป็นคนที่แต่ละพรรคเลือกมาแล้ว ก็คิดว่ามีโอกาส และทำให้การทำความเข้าใจและเวลาที่ใช้สั้นลง สุดท้ายก็อยู่ที่มติของกรรมาธิการ












