POLITICS

‘นฤมล‘ ควง 2 รมช.เข้ากระทรวงศึกษาฯ วันแรก พร้อมสานงานต่อ รมต.คนก่อน

‘นฤมล‘ ถือฤกษ์ 08.19 น. ควง 2 รมช.สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ากระทรวงศึกษาธิการเป็นทางการวันแรก พร้อมสานงานต่อรัฐมนตรีคนก่อน ย้ำ ขรก.ต้องรับใช้แผ่นดิน ไม่ใช่ของนักการเมือง

วันนี้ (8 ก.ค. 68) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ถือฤกษ์ 08.19 น.สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงศึกษาธิการหลังเข้ารับตำแหน่ง

นางนฤมล นำคณะสักการะพระพุทธรูปประจำกระทรวงศึกษาธิการ ศาลพระภูมิ พระพุทธรูปด้านหน้า สอศ. ศาลปู่เจียม และพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 และพบปะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นทางการ

สำหรับการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้ มีนายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิ ศิริลัทยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบดอกไม้แสดงความยินดี นอกจากนี้ยังมี สส.ต่างพรรคมาร่วมแสดงความยินดีด้วย อาทิ นางสาวกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน และนายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี พรรคชาติพัฒนา

นางนฤมล เปิดเผยภายหลังว่า ตนเองไม่อยากให้ใช้คำว่ามอบนโยบาย แต่วันนี้เรามาคุยกันในสิ่งที่ผู้บริหารของกระทรวงศึกษาฯ อยากจะพัฒนาต่อยอด โดยรัฐมนตรีทั้ง 3 คนที่เข้ามาบริหารงานใหม่ ก็อยากจะผลักดันและช่วยให้งานที่คงค้างอยู่สำเร็จตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ทั้งนี้ เรื่องต่าง ๆ ที่รัฐมนตรีท่านก่อน ๆ ได้วางเอาไว้ อะไรที่เป็นเรื่องดี เราก็จะนำมาสานต่อ ไม่มีการนำเอาเรื่องการเมืองมาเป็นตัวหลักในการดำเนินงาน

“อาจารย์ขอให้ทุกท่านสบายใจได้ว่างานต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนอยู่จะไม่เกิดปัญหาสะดุดแน่นอน ทราบมาว่า หลายท่านมีความกังวลว่า จะมีการรายงานว่า ใครเป็นคนของใคร มาจากสายไหน แต่ส่วนตัวอาจารย์ไม่ถือว่าใครเป็นคนของใคร แต่ถือว่าทุกท่านที่อยู่ที่นี่คือ ข้าราชการของในหลวง คือ ข้ารับใช้แผ่นดิน เป็นคนของกระทรวงศึกษาฯ ฝ่ายการเมืองเข้ามาบริหารก็เป็นเพียงแค่วาระ มาแล้วก็ไป ข้าราชการต้องปฏิบัติตามนโยบายของฝ่ายการเมือง อาจารย์เข้าใจตรงนี้เป็นอย่างดี เราทั้ง 3 คนจะทำงานร่วมกับข้าราชการประจำ เป็นครอบครัวเดียวกันซึ่งไม่อยากให้เกิดความกังวลใด ๆ ”

ก่อนหน้านี้ตนเองได้พบกับผู้บริหารนอกรอบหลาย ๆ คนไปแล้ว จึงได้มีการพูดคุยกันเรื่องสวัสดิการของครู และการสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรครู เช่น การลดภาระงานต่าง ๆ ให้กับครู รวมไปถึงเรื่องวิทยฐานะ และระบบการโยกย้ายว่า จะทำอย่างไรให้หลักเกณฑ์เป็นธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด เพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจต่อบุคลากรครูในการทำหน้าที่ เพราะนอกจากส่วนของนักเรียนแล้ว บุคลากรครูกว่า 500,000 คน เราก็จะต้องทำให้เขามีความสุขด้วย เพราะจะทำให้คุณภาพของเด็กไทยมีศักยภาพมากขึ้น

ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนฝากมาว่า อยากให้การศึกษาของไทยให้ความสำคัญต่อหลักสูตรแกนกลาง ในส่วนของประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ให้เด็กและเยาวชนได้ทราบถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ระบบการปกครองของไทยที่มีรูปแบบไม่เหมือนกับประเทศอื่น และหน้าที่พลเมืองเป็นอย่างไร จึงอยากจะให้มีการพัฒนาให้เห็นเป็นรูปธรรมในแบบเรียนที่หลายฝ่ายให้การยอมรับและนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายต่อไปในอนาคต ซึ่งตนเองก็อยากวางรากฐานตรงนี้ไว้ เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นหลังเข้าใจในรากเหง้าของและหน้าที่ของตัวเองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

Related Posts

Send this to a friend