‘ชวน’ ชี้ หัวหน้าพรรค ปชป. คนใหม่ ต้องระดมความเชื่อมั่นได้

หากเลือกคนที่มีคดีติดตัว พรรคต้องรับกรรมไป ย้ำต้องทำงานเพื่อประเทศ ไม่ใช่หวังเพียงร่วมรัฐบาล

นายชวน หลีกภัย ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโหวตเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขณะนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงตัวแคนดิเดตหัวหน้าพรรค ว่าเรื่องนี้อยากให้ดูกันวันที่มีการสมัคร เพราะยังไม่รู้ว่าใครมาสมัครบ้าง แต่สิ่งที่พอจะให้ความเห็นได้ คือ มีคนห่วงใยพรรคจริง ๆ เพราะยิ่งเห็นพรรคแพ้เลือกตั้ง ก็ยิ่งห่วงใย จึงควรใช้เหตุการณ์นี้มาฟื้นพรรค โดยคัดเลือกคนที่มีความเหมาะสม เป็นที่เชื่อถือได้มาเป็นผู้นำ ในการที่จะพัฒนาพรรคต่อไป ในโอกาสอนาคต

นายชวน กล่าวต่อว่า คนที่แสดงความจำนงขอสมัครเป็นหัวหน้าพรรค เท่าที่ทราบมีประกาศตัวชัดเจน คือ นายอลงกรณ์ พลบุตร ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรก แต่เชื่อว่ายังมีผู้สมัครที่ยังไม่ประกาศตัวอีก และเชื่อว่าสมาชิกของพรรคจะช่วยประคับประคองให้พรรคเดินไปข้างหน้าต่อไป

ทั้งนี้ นายชวน กล่าวว่า ตนเป็นคนรุ่นปลาย อยู่มานานจนรู้สึกว่าพรรคเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต แต่คนอย่างพวกตน มั่นคงไม่วอกแวก แม้จะเคยถูกชวนให้ไปตั้งพรรคใหม่เมื่อปี 2519 แต่ตนไม่มีความคิดแบบนั้น และอยู่รอดยืนยาวมาจนถึงตอนนี้ เป็นเวลา 55-56 ปี จะมีตำแหน่งหรือไม่ก็ยังอยู่กับพรรค

สำหรับหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น นายชวน มองว่า จำเป็นต้องเป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนจะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ตนขอย้ำว่า คนที่จะมาเป็นผู้นำต้องมีความคิดก้าวไกล มีความคิดก้าวหน้าในทางปฏิบัติ และต้องรู้ว่ามีอดีต มีปัจจุบัน และมีอนาคต เพราะประเทศไม่ได้ตั้งมาเมื่อปีที่แล้ว

“ใครจะทำได้หรือไม่ ก็ต้องดูที่องค์ประกอบด้วยว่า คนคนนั้น มีพื้นฐานมีความน่าเชื่อถือเพียงใด สามารถระดมความเชื่อมั่นในหมู่สมาชิกได้ มากน้อยเพียงใด มันก็อยู่ที่เกียรติประวัติของคนคนนั้นเช่นเดียวกัน ว่ามีประวัติเป็นคนเชื่อถือได้หรือไม่ ทำงานกับคนอื่นได้เอาเปรียบคนอื่นหรือไม่ เป็นคนสุจริตหรือไม่ บริหารงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร หรือสมมุติ ยังไม่เคยเป็นอะไรมา ก็อาจจะต้องดูประวัติย้อนหลังกลับไป” นายชวน กล่าว

นายชวน ยืนยันว่า ตนมองทุกคนมีประโยชน์ และมีความสำคัญด้วยกันทุกคนในการมีส่วนร่วมพัฒนาพรรค ไม่มีใครที่ไม่มีความหมาย หากเปรียบเทียบสมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ตนเคยแข่งขันกับนายมารุต บุนนาค เมื่อตนชนะ ก็ชวนนายมารุต มาเป็นรองหัวหน้าพรรค และเชิญคู่แข่งมาร่วมทำงานกัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา แต่เพิ่งมีสมัยนายจุรินทร์ ที่คู่แข่งขันเมื่อแพ้ก็ทยอยออกไปจากพรรค ตนเป็นคนที่สนับสนุนนายจุรินทร์ และพยายามปกป้อง แม้กระทั้งในช่วงท้าย ๆ ที่มีคนคิดจะปลดนายจุรินทร์ก่อนเลือกตั้ง ต้องออกมาขอร้องว่าอย่าทำ

ส่วนคนที่ออกจากพรรคไปนั้น นายชวน ยอมรับว่า เป็นคนดี ๆ หลายคน และตนก็ชื่นชม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถจับทุจริตจำนำข้าว รวมถึงหลายคนที่ออกจากพรรคไปอย่าง นายถาวร เสนเนียม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ คนเหล่านี้เคยทำงานหนัก ทำให้พรรคได้ประโยชน์ และทำให้บ้านเมืองดีขึ้น

นายชวน หวังว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่จะได้คนที่มีศักยภาพ ทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่เพียงเอาคนเข้ามาเพื่อหวังจะร่วมรัฐบาล เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่สามารถเป็นรัฐบาลก็ได้ เป็นฝ่ายค้านก็ได้

เมื่อถูกถามว่า หากหัวหน้าพรรคเป็นคนที่ถูกกล่าวหาหรือมีคดีจะต้องทำอย่างไรนั้น นายชวน กล่าวว่า หากเป็นเช่นนั้น พรรคต้องรับกรรมไป เพราะพรรคมีชีวิตด้วยคนที่เป็นสมาชิก ถ้าสมาชิกของพรรคเลือกคนประเภทนั้น คนนอกพรรคก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นวันเลือกหัวหน้าพรรคจะมีการพูดถึงเรื่องนี้ด้วย ส่วนที่มีการพูดว่าการเลือกหัวหน้าพรรคจะมีผลต่อการร่วมรัฐบาลนั้น ตนไม่แน่ใจเพราะไม่มีใครยอมรับว่าไปเจรจาร่วมรัฐบาล ดังนั้นใครไปทำอะไรไว้ ควรระวัง ทุกคนต้องยึดความถูกต้องชอบธรรมเอาไว้