POLITICS

‘นพดล‘ ห่วงสถานการณ์ชายแดนไทย ย้ำ 4 ข้อเสนอ พร้อมวางแผนรองรับผู้หนีภัยสงคราม

‘นพดล‘ ห่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ย้ำข้อเสนอ 4 ข้อ ตั้งกลไกติดตามสถานการณ์ วางแผนรองรับผู้หนีภัยสงครามที่จะมากขึ้น ผลักดันการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน

นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์ที่กองกำลังเคเอ็นยู ยึดเมืองเมียวดี ตรงข้ามแม่สอด และในขณะนี้มีผู้อพยพหนีภัยสงครามข้ามแดนมาแล้วบางส่วนว่า เรื่องนี้คณะ กมธ.ต่างประเทศ เคยมีข้อเสนอแนะถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง 4 ข้อ ซึ่งยังใช้ได้ทุกข้อ คือ

1.รีบตั้งกลไกติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิด

2.มีแผนรองรับผู้อพยพหนีภัยสงครามและผลกระทบการสู้รบในเมียนมา

3.ช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้ครอบคลุมทั้งคนเมียนมาและชนกลุ่มน้อยที่ได้รับผลจากการสู้รบ

4.ผลักดันการเจรจาสันติภาพในเมียนมาผ่านกลไกทรอยก้าพลัส โดยไทยควรเป็นหัวหอกเชิญประธานอาเซียน จีน อินเดีย เข้ามาผลักดันการเจรจาสร้างสันติภาพในเมียนมา ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ตรงเป้า และได้จังหวะที่สุด

นายนพดล กล่าวต่อว่า ขณะนี้เหตุการณ์กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ สู้รบกับรัฐบาลทหารเมียนมา เป็นเรื่องที่ฝ่ายความมั่นคงรับทราบมาอย่างต่อเนื่อง แต่มีคำถามว่าเรามีแผนรองรับที่ทันการและครอบคลุมหรือไม่ เนื่องจากการสู้รบน่าจะดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องในฤดูแล้ง และจะมีคนหนีภัยมาเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น อาจจะมีคนหนีการเกณฑ์ทหารในเมียนมาข้ามแดนเข้ามาไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งถามว่าระบบการตรวจสอบและการขึ้นทะเบียนคนเข้าเมืองทันการและรองรับได้เพียงใด มิฉะนั้นอาจจะกระทบต่อปัญหาความมั่นคงในอนาคตได้

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุดในเมียนมา จึงตอกย้ำข้อเสนอ 4 ข้อที่คณะ กมธ.ต่างประเทศ เคยเสนอไปแล้วเพื่อให้ภาครัฐไปดำเนินการ โดยเฉพาะ ข้อ 1 เร่งรัดกลไกระดับชาติ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบกรรมการหรือมีเจ้าภาพในรูปแบบอื่นเพื่อติดตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในเมียนมาอย่างใกล้ชิด โดยมีมาตรการรองรับอย่างเป็นระบบ และข้อ 2 ภาครัฐน่าจะสื่อสารแผนรองรับการอพยพหนีภัยสงครามและหนีการเกณฑ์ทหารว่าจะมีจำนวนเท่าใด

นายนพดล กล่าวว่า เราต้องช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าการหลบภัย อาหาร อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุของปัญหาคือการสู้รบ คิดว่าเวลานี้เหมาะสมที่จะผลักดันกระบวนการสันติภาพในเมียนมา โดยตั้งทรอยก้าพลัสเพื่อโน้มน้าวทุกฝ่ายในเมียนมาหันหน้ามาพูดคุยกันเพื่อสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน

“ถ้ามีการสู้รบกันต่อไปคนที่ต้องรับภาระมากที่สุดก็คือประเทศไทย ซึ่งเรามีความปรารถนาดี อยากเห็นสันติภาพ เสถียรภาพ และเอกภาพในเมียนมา ดังนั้นไทยควรเป็นหัวหอกหลักในการร่วมมือคุยกับทางประธานอาเซียน จีน อินเดีย และควรดำเนินการทันที เพราะข้อเสนอในเรื่องนี้นักวิชาการและผู้สันทัดกรณีเรื่องเมียนมาก็ได้เสนอแนะรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าทำได้ก็จะปูทางไปสู่สันติภาพอย่างยั่งยืน เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุและตรงจุดที่สุด รวมทั้งจะเพิ่มพูนบทบาทของไทยในเวทีโลกด้วย” นายนพดล กล่าว

Related Posts

Send this to a friend