POLITICS

‘โภคิน’ ชี้ ระบบอุปถัมภ์ ทำไทยยังติดกับดัก ทุนดำครอบงำการเมือง

‘โภคิน’ ชี้ ระบบอุปถัมภ์ ทำไทยยังติดกับดัก ทุนดำครอบงำการเมือง ชู ‘สัญญาประชาชน’ ปฏิรูปการเมือง ราชการ และเศรษฐกิจ คืนอำนาจให้ประชาชน ตรวจสอบรัฐได้จริง ให้คนตัวเล็กมีที่ยืนในระบบ

วันนี้ (7 พ.ย. 68) ดร.โภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวในการสัมมนา ได้เวลาทุบทุนเถื่อน ของพรรคไทยสร้างไทย โดยระบุถึงทิศทางการพัฒนาประเทศว่า หลังผ่าน 93 ปีของระบอบประชาธิปไตยไทย ประเทศยังถูกฉุดรั้งด้วย ระบบอุปถัมภ์ วัฒนธรรมจารีต และการยอมจำนนต่ออิทธิพล ทำให้การเมืองไทยวนเวียนอยู่ในวงจรอำนาจซ้ำซาก โดยระบุว่าปัญหาหลักในวันนี้คือโครงสร้างทางการเมืองและระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขได้ ปัญหาอื่นๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมจะยิ่งยากต่อการพัฒนา

ดร.โภคิน กล่าวว่าโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอ่อนแอ ถูกครอบงำด้วยทุนเทาและทุนดำ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเมืองในทุกระดับ ระบบทุนเช่นนี้เป็นภัยร้ายต่อความเป็นธรรมและการเติบโตของประเทศ เพราะเงินทุนเหล่านี้มักถูกใช้ซื้ออำนาจทางการเมือง ทั้งในช่วงเลือกตั้งและในสภา ต่างจากประเทศพัฒนาแล้วที่พลังประชาชนเป็นฐานหลักในการสนับสนุนพรรคการเมือง ดร.โภคินชี้ว่าหากปล่อยให้ระบบทุนครอบงำต่อไป การปฏิรูปใดๆ ก็จะไม่เกิดผล จึงต้องเริ่มต้นแก้ที่โครงสร้างอำนาจทางการเมืองอย่างจริงจัง

พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอแนวทาง “สัญญากับประชาชน” เพื่อเป็นคำมั่นต่อสังคม โดยมีเป้าหมายหลักคือการขจัดการทุจริตและเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐ โดยเสนอให้ประชาชน 50,000 คนมีสิทธิ์ถอดถอนองค์กรอิสระได้ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนตรวจสอบอำนาจรัฐอย่างแท้จริง รวมถึงเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่แปรพักตร์ หรือ “งูเห่า” พ้นจากตำแหน่งทันที อีกทั้งให้ตัดสิทธิ์ผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาในคดีร้ายแรง เช่น ค้ามนุษย์ ยาเสพติด หรือหลอกลวงทางเศรษฐกิจ ไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อป้องกันไม่ให้คนไร้จริยธรรมกลับมาครองอำนาจอีก

ดร.โภคิน ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและลดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 โดยเสนอให้กฎหมายที่ขัดขวางชีวิตประชาชนถือว่าขัดรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งเร่งรัดกฎหมาย “การอนุมัติอนุญาตฉบับเดียว” เพื่อแก้ปัญหาการรีดไถและลดโอกาสทุจริตในระบบราชการ นอกจากนี้ยังเสนอให้ตั้ง “องค์กรปราบทุจริตภาคประชาชน” มีสถานะเป็นกฎหมาย ให้ภาควิชาชีพและตัวแทนจากแต่ละภาคของประเทศเข้ามามีส่วนร่วมตรวจสอบการทุจริตอย่างเป็นระบบ โดยมีอำนาจส่งเรื่องให้ฟ้องได้หากหน่วยงานหลักอย่าง ป.ป.ช. ไม่ดำเนินการ

ดร.โภคิน ชี้ว่าประเทศไทยมีขนาดราชการที่ใหญ่เกินจำเป็น งบประมาณที่ใช้จ่ายกับเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแม้จำนวนประชากรลดลง โดยในปี 2569 งบประมาณสำหรับข้าราชการสูงถึงกว่า 800,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ทั้งที่ประชากรลดลงราว 2 ล้านคน จึงเสนอให้ลดขนาดหน่วยงานและงบข้าราชการลง เพื่อนำงบประมาณส่วนนี้มาพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนโดยตรง

ดร.โภคิน กล่าวย้ำว่า เป้าหมายของพรรคไทยสร้างไทยคือการปลดปล่อยและเพิ่มพลังให้ประชาชน โดยให้ภาคประชาชนมีอำนาจตรวจสอบและเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ การเงิน และความรู้ เพื่อให้คนตัวเล็กสามารถทำธุรกิจและดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี ภายใต้นโยบายที่จะเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 4 ปี ตั้งแต่ 100 วันแรก 6 เดือน และปีที่ 3 ซึ่งจะสะท้อนผ่านตัวชี้วัดระดับโลก เช่น ดัชนีคอร์รัปชันและความยุติธรรมที่ดีขึ้น

Related Posts

Send this to a friend