ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ยืนยัน เอกสาร ‘มีชัย’ หลุดเป็นของจริงหรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญ แจงขอเอกสารชี้แจงปมวาระ 8 ปีนายกฯ จาก ‘มีชัย’ จริง – ไม่ยืนยัน เอกสารหลุดเป็นของจริงหรือไม่ แยู่ระหว่างตรงจสอบ กังวลกระทบผู้ให้ความเห็น
วันนี้ (7 ก.ย. 65) นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ และ นายบุญเสริม นาคสาร รองเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวก่อนที่วันพรุ่งนี้ (8 ก.ย. 65) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะนัดประชุมวาระพิเศษพิจารณาวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายเชาวนะ กล่าวว่า นับแต่ศาลพิจารณารับคำร้อง ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาตามปกติ การที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมพรุ่งนี้ ไม่ได้เป็นไปเพื่อเร่งเวลา หรือทำให้เวลาช้าลง ยืนยันว่า คดีนี้มีความสำคัญ ศาลจึงให้ความสำคัญตามความสำคัญของเรื่อง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ผลการประชุมพรุ่งนี้จะมีเสียงข้างมาก ข้างน้อยไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ตามกระบวนการยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะพรุ่งนี้เป็นเพียงการพิจารณาพยานหลักฐานจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับที่ระบุว่า จะมีการนัดอ่านคำวินิจฉัยในอีก 15 วันก็ยังไม่มีเงื่อนไขของเวลา ทั้งนี้เมื่อได้พยานหลักฐานแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะอภิปรายว่า หลักฐานต่าง ๆ เพียงพอต่อการวินิจฉัยหรือไม่ หากไม่เพียงพอต้องแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติม ด้วยพยานเอกสาร ถ้อยคำ ขอให้พนักงานสอบสวนมาให้กระทำ หรือให้การอย่างหนึ่งอย่างใดที่เป็นประโยชน์
ประเด็นที่มีการเผยแพร่คำชี้แจงของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ ให้กำหนดการนับวาระการดำรงตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 นั้น นายเชาวนะ ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญขอความเห็นจริง แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่า เป็นของจริงหรือของปลอม อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไป เพราะเห็นพร้อมกันกับสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามประธานศาลรัฐธรรมนูญมีความกังวล เนื่องจากเอกสารที่รั่วไหลเกี่ยวข้องกับเอกสารในสำนวนคดี และกระทบกับผู้ให้ความเห็น
นายเชาวนะ ยังกล่าวอีกว่า คำร้องลักษณะนี้ไม่มีการกำหนดกรอบเวลาไว้ แต่หากมีหลักฐานเพียงพอต่อการวินิจฉัย ศาลจะยุติแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อกำหนดประเด็นในการวินิจฉัย จากนั้นจะนัดอ่านคำวินิจฉัยและลงมติ โดยปกติคำร้องที่มีคู่กรณี ศาลจะลงมติช่วงเช้า และอ่านคำวินิจฉัยช่วงบ่ายและเย็น ซึ่งศาลจะนัดคู่ความให้มาฟังคำวินิจฉัยล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน
ส่วนเอกสารหลุดคำชี้แจงของพลเอกประยุทธ์ ยังไม่เห็น ยืนยันว่า ศาลรัฐธรรมนูญพยายามเต็มที่เพื่อควบคุมกระบวนการให้รัดกุมที่สุด หากมีข่าวเอกสารหลุดออกมาเช่นนี้ จะต้องหาสาเหตุเพื่อเพิ่มความเข้มงวดต่อไป
นอกจากนี้กรณีที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเกษียณอายุราชการไป อาจทำให้เสียงลงมติเหลือเพียง 4:4 นั้น นายเชาวนะ ชี้แจงว่า โดยปกติมี 2 เงื่อนไข ดังนี้ วาระตามอายุก็พ้นไปโดยไม่ต้องรอตุลาการมารับหน้าที่ต่อ แต่ถ้าพ้นด้วยจำนวนปี ต้องทำหน้าที่จนกว่าตุลาการท่านใหม่จะมาทำหน้าที่ ดังนั้นจึงจะไม่มีภาวะสุญญากาศ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่า การพิจารณาคดี ต้องมีองค์คณะตุลาการขั้นต่ำ 7 ท่าน จึงไม่เป็นเหตุให้ศาลต้องหยุดกระบวนพิจารณา
