พรรคประชาชน ไม่ขอเป็นองค์ประชุม หลังรัฐบาลเลื่อนวาระเลือกรองประธานสภาฯ
ก่อนญัตติด่วน ชี้หากพรรคร่วมไม่แสดงตนให้ เป็นสัญญาณความขัดแย้ง สะท้อนคุมเสียงไม่อยู่ เหน็บ ‘ฉลาด’ นั่งบัลลังก์ได้ 2 วัน ก็ไม่เป็นกลางแล้ว
วันนี้ (7 ส.ค. 68) พรรคประชาชน นำโดย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงภายหลังเมื่อช่วงเช้านี้ ที่ประชุมสภามีการถกเถียงเกี่ยวกับการขอเลื่อนวาระการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 และขอนับองค์ประชุม จนกระทั่งมีการขอนับองค์ประชุมแบบขานชื่อในช่วงบ่าย ว่า เมื่อช่วงเช้าระหว่างที่พักการประชุม ก็ได้มีการหารือกับทุกพรรค ว่าจะมีกระทู้เรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบแนวชายแดน ซึ่งพรรคฝ่ายค้านได้มีการขอให้มีการเสนอให้ญัตติด่วนก่อน แล้วค่อยเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และหากเป็นเช่นนั้น ฝ่ายค้านก็พร้อมจะร่วมเป็นองค์ประชุมให้ แต่วิปรัฐบาลยังยืนยันจะขอเลื่อนวาระเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขึ้นมาก่อน จึงทำให้สมาชิกพรรคภูมิใจไทยได้แย้งขึ้นอีก
ตนเองเข้าใจว่าในการประชุม การมีประธาน 3 คน ก็จะทำให้การพิจารณาทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่วิปรัฐบาลไม่ยอม ยังคงยืนยันให้เลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งต่อไป และขอให้เสนอมีการนับองค์ประชุมในการขานชื่อ ดังนั้นต้องขอวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของรองประธานสภาฯ คนใหม่ หรือนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ว่า การวินิจฉัยเช่นนี้ ไม่เป็นไปตามข้อบังคับและใช้อำนาจ โดยที่ไม่ฟังคำโต้แย้งจากเพื่อนสมาชิกที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้กล่าวไป เป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่เคารพ และไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ เป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดีเลย โดยเฉพาะการที่ท่านทำงานมาได้เพียง 2 วัน ปรากฏว่าท่านทำหน้าที่ไม่เป็นกลางแล้ว เราจึงไม่สามารถมั่นใจได้ว่า ในการทำหน้าที่ต่อไป ทางสมาชิกจะเชื่อมั่นได้อย่างไร ว่าท่านจะปฏิบัติหน้าที่บนบัลลังก์อย่างเป็นกลางได้จริง ๆ
ถึงตอนนี้มีโอกาสมากที่เมื่อการนับองค์ประชุมเสร็จสิ้น องค์ประชุมอาจไม่ครบ ซึ่งตนเองคิดว่าซีกฝั่งรัฐบาลเองก็น่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าตอนนี้องค์ประชุมของรัฐบาลไม่ครบ โดยพรรคฝ่ายค้านนั้น ยืนยันชัดเจนว่าเราไม่ขอร่วมเป็นองค์ประชุมในวันนี้ และเป็นหน้าที่ที่สำคัญของฝ่ายรัฐบาล ที่ต้องรักษาองค์ประชุมในการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ไว้ให้ได้
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าสังเกตคือ เมื่อเช้านี้ ตนเองไม่มั่นใจว่าองค์ประชุมไม่ครบ ก่อนที่จะมีการพักการประชุมไป มีพรรคร่วมรัฐบาลไหนบ้าง ที่ไม่ได้แสดงตน หรือแสดงตนไม่ครบ แต่เมื่อการขานชื่อเสร็จสิ้น จะต้องมีการแจ้งจำนวนอย่างชัดเจน จนถึงตอนนั้น คิดว่าน่าจะเห็นภาพได้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนบ้างที่มาไม่ครบ และเป็นจำนวนเท่าไหร่ ก็คงจะได้ทราบกันว่า พรรคไหนขาดมากที่สุด ในซีกฝ่ายรัฐบาล
“เป็นสัญญาณของความขัดแย้ง ของเรื่องเลือกตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ซึ่งยังเป็นความขัดแย้งที่ยังคงดำรงอยู่ ว่าก่อนเข้าวาระก็ยังตกลงกันไม่ได้หรือไม่”
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.00 น. นี้ ตนเองต้องไปประชุมวิปร่วมกับฝ่ายรัฐบาล เรื่องการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ วาระสองต่อไป หากวันนี้รัฐบาลยังไม่สามารถรักษาองค์ประชุมไว้ได้ ในสัปดาห์หน้า ก็คงมีประธานทำหน้าที่เพียง 2 ท่าน ซึ่งฝ่ายค้านพร้อม หากต้องขยายเวลาเป็น 4 วัน หรือ 5 วัน
เมื่อถามถึงบรรยากาศในช่วงพักการประชุม ฝ่ายรัฐบาลมีเอกภาพมากเพียงพอหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้มีสัญญาณความขัดแย้ง แต่ต้องบอกว่า ในตอนนั้นไม่มีการรับปากว่า จะเป็นไปตามพรรคฝ่ายค้านเสนอหรือไม่ ที่เราได้นำเสนอทางออก ที่เราคิดว่าดีที่สุดในการร่วมเป็นองค์ประชุมให้ได้ ซึ่งตนก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ เพราะเมื่อสักครู่ วิปรัฐบาลบอกให้เลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่งก่อน ใช้เวลานิดเดียว แต่ปรากฏว่า เวลานับองค์ประชุม กลับเสนอให้ขานชื่อที่อาจใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ตกลงว่าเราอยากจะประหยัดเวลา หรือเสียเวลากันแน่ และก็มีความเป็นไปได้ว่า ใช้การขานชื่อเพื่อรอสมาชิก แต่ตนก็ไม่มั่นใจว่า ตัวเลขที่นับเมื่อเช้ากับขณะนี้ ตัวเลขไหนจะมากกว่ากัน
ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ วิปรัฐบาล ระบุ สส.ฝ่ายรัฐบาลอย่าสันหลังยาวนั้น เป็นการสะท้อนว่าคุมเสียงไม่อยู่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ค่อนข้างชัดว่า ทางวิปรัฐบาลไม่สามารถคุมเสียงพรรคร่วมได้ และตัวเลขในวันนี้ที่ออกมา ก็อาจจะสะท้อนว่าคุมเสียงในพรรคตัวเองได้หรือไม่ด้วย












